จากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าจากท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า
“เมื่อใดที่เราะมะฎอนมาถึง ประตูทั้งหลายของสวรรค์จะถูกเปิดอ้า(อย่างกว้างขวาง) ประตูทั้งหลายของนรกจะถูกปิดตรึง และเหล่าชัยฏอนจะถูกมัดไว้”(รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ และมุสลิม สำนวนหะดีษเป็นของมุสลิม)
คำอธิบายหะดีษ
การเยือนมาของเดือนเราะมะฎอนนั้นเป็นสัญญาณแห่งความดีงามแก่ผู้ที่มีความศรัทธา ด้วยความเมตตาและความโปรดปรานของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา พระองค์จึงได้ทรงเปิดบรรดาประตูสวรรค์เสมือนว่าพระองค์ทรงต้อนรับบ่าวที่มีความศรัทธาและมีความภักดีต่อพระองค์ และยินยอมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งทุกอย่างของพระองค์ แม้ว่าจำต้องอดอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนลดความรู้สึกของอารมณ์ใฝ่ต่ำ โดยหวังในผลตอบแทนและผลบุญจากพระองค์เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ในเวลาเดียวกันอัลลอฮฺทรงปิดบรรดาประตูนรก เสมือนว่าได้แจ้งให้ทราบว่านรกนั้นมิใช่เป็นสถานที่สำหรับพวกเขา อัลลอฮฺยังทรงล่ามโซ่บรรดาชัยฏอนมารร้ายที่มีบทบาทสำคัญในสิ่งที่ชั่วร้ายต่อมนุษย์ เพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายสามารถปฏิบัติภารกิจและประกอบอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ อย่างอิสระและสมบูรณ์ปราศจากการรบกวนของชัยฏอนมารร้าย
บทเรียนจากหะดีษ
1. เราะมะฎอนเป็นเดือนอันประเสริฐยิ่งกว่าเดือนอื่นๆ
2. ในเดือนเราะมะฎอนอัลลอฮฺทรงประทานความโปรดปรานอย่างกว้างขวางด้วยการเปิดบรรดาประตูสวรรค์ และทรงปิดบรรดาประตูนรก ขณะเดียวกันอัลลอฮฺยังทรงล่ามโซ่บรรดาชัยฏอนมารร้ายเพราะว่าอัลลอฮฺได้ให้เกียรติแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่ภักดีต่อพระองค์
3. เราะมะฎอนเป็นเดือนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความโปรดปรานและเป็นฤดูแห่งความดีงาม
4. ส่งเสริมให้มีการประกอบความดีในเดือนเราะมะฎอนมากกว่าเดือนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เองพระองค์จึงเปิดบรรดาประตูสวรรค์และทรงปิดบรรดาประตูนรก
5. ผู้ใดที่ไม่สามารถสนองรับความดีงามในเดือนเราะมะฎอนแล้วนั่นก็หมายความว่า เขาผู้นั้นถูกกีดกั้นจากความดีงามอันมากมาย
6. พระองค์ได้ล่ามโซ่บรรดาชัยฏอนมารร้ายไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายสามารถประกอบอะมัลอิบาดะฮฺในเดือนเราะมะฎอนอย่างเต็มความสามารถ และอิสระจากการรบกวนของชัยฏอนมารร้ายทั้งหลาย
7. หากบุคคลนั้นยังคงกระทำความชั่วหรือมะศิยะฮฺในเดือนเราะมะฎอนแล้ว นั่นหมายความว่า ความชั่วนั้นมาจากตัวของเขาเอง
……………………………………………………………………………
Cr. islam more.com