:: [คำถาม] ::
อาหารของฉันในร้านฉันปรุงและบริการเฉพาะอาหารที่ฮาลาลเท่านั้น ฉันเซ้งร้านอาหารมาจากคนไม่ใช่มุสลิมและเทศบาลได้โอนใบอนุญาตการดื่มสุราในนามชื่อของฉัน ฉันไม่ได้ขายแอลกอฮอลล์แต่ลูกค้านำขวดไวน์มารับประทานอาหารมื้อค่ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่กฎหมายอนุญาต ฉันอนุโลมให้พวกเขาทำสิ่งนี้ได้หรือไม่ หรือว่าฉันต้องห้ามพวกเขา พวกเขาใช่ว่าจะแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีหรือก่อกวนลูกค้าคนอื่นๆ และเมื่อใบอนุญาตขายเหหล้าหมดอายุลงฉันจะไม่ต่อใหม่อีกรอบ …
:: [คำตอบ] ::
ตามหลักนิติธรรมอิสลาม แล้วเจ้าของร้านต้องรับผิดชอบต่อบาปที่เกิดขึ้นในร้านอาหารของเขาโดยที่เขาสามารถยับยั้งหรือป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นในสถานที่เขาเป็นเจ้าของ ประการแรก การห้ามแอลกอฮอล์นั้นมีหลักฐานชัดเจนในอัล-กุรอานและสุนนะฮฺ(วิถีปฏิบัติของท่านนบีและเป็นมติเอกฉันท์ของบรรดาผู้รู้ ท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ได้สาปแช่งคน 10 ประเภทที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์โดยไม่จำกัดเพียงแค่คนดื่มเท่านั้น
มีรายงานว่า ท่านอนัส บิน มาลิก รดิยัลลอฮุ อันฮุ กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ได้สาปแช่งบุคคล 10 ประเภทที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ ได้แก่ “คนที่คั้นสุรา, คนรินสุรา, คนดื่มสุรา, คนแบกหรือขนสุรา, คนที่สุราถูกแบกมาส่งให้, คนที่เสนอราคาสุรา, คนขายสุรา, คนที่กินราคาของสุรา, คนซื้อสุรา ,คนที่ถูกซื้อสุรามาให้”
รายงานโดย อิหม่าม ติรมีซียฺ (1259) และอิบนุ มาญะฮฺ (3381) จัดว่าเป็นหะดีษ ศอฮี้ยฺ โดยเชคอัล-บานียฺในศอฮี้ยฺ อัล-ติรมีซียฺ
หลักฐานดังกล่าวนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าบาปนั้นครอบคลุมทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน ซึ่งอาจจะจบลงด้วยการมึนเมาก็เป็นได้
คนที่นั่งอยู่ในสถานที่ที่อัลลอฮ์ถูกปฏิเสธและสถานที่ที่มีการกระทำชั่วร้ายและผิดบาปคือการมีส่วนร่วมกับพวกเขาในบาปนั้น
คนที่นั่งอยู่ในสถานที่ที่อัลลอฮ์ถูกปฏิเสธ การงานที่ชั่วร้ายและการกระทำบาปนั้นถือว่ามีส่วนร่วมกับพวกเขาในบาปนั้นด้วย ถ้าเขาสามารถที่จะเปลี่ยนความชั่วแต่เขาไม่ได้กระทำหรือเขาสามารถที่จะหลีกห่างจากวงสุราได้แต่เขาไม่ได้กระทำเช่นนั้น อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงตรัสว่า
“และแน่นอน อัลลอฮฺได้ทรงประทานลงมาแก่พวกเจ้าแล้วในคัมภีร์ นั้นว่า เมื่อพวกเจ้าได้ยินบรรดาโองการของอัลลอฮฺโองการเหล่านั้นก็ถูกปฏิเสธศรัทธา และถูกเย้ยหยัน อังนั้นพวกเจ้าจงอย่านั่งร่วมกับพวกเขา จนกว่าพวกเขาจะพูดคุยกันในเรื่องอื่นจากนั้น แท้จริงพวกเจ้านั้น-ถ้าเช่นนั้นแล้ว ก็เหมือนพวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงรวบรวมบรรดามุนาฟิก และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาไว้ในนรกญะฮันนัมทั้งหมด” สูเราะฮฺ อัน-นิสาอ์ อายะฮฺที่ 140
อิหม่าม อิบนุ กะษีร กล่าวว่า
ถ้าท่านกระทำบาปหลังจากที่มันได้มาถึงท่านแล้ว และท่านเห็นด้วยที่จะนั่งร่วมกับพวกเขาในสถานที่ที่อายะฮฺของอัลลอฮฺถูกปฏิเสธ ถูกล้อเลียนและดูถูก และท่านเห็นด้วยกับการกระทำของพวกขา ดังนั้นท่านมีส่วนร่ววมกับพวกเขาในสิ่งที่พวกเขากระทำ ดังนั้น อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงกล่าวว่า “แท้จริงพวกเจ้านั้น-ถ้าเช่นนั้นแล้ว ก็เหมือนพวกเขา …” สูเราะฮฺ อัน-นิสาอ์ อายะฮฺที่ 140 เช่น การกระทำบาป ดังที่กล่าวในหะดีษว่า “ใครก็ตามที่เชื่อในอัลลอฮ์และวันสุดท้าย อย่าได้นั่งโต๊ะที่มีแอลกอฮอล์ที่ถูกส่งไปรอบๆ” ตัฟซีร อิบนุ กะษีร (2/435)
อัลลอฮ์ทรงกำชับมุสลิมให้ประณามความชั่วร้ายเมื่อเขาเห็นหรือรู้ว่ามันเกิดขึ้น ดังนั้นวิธีนี้จะอนุญาตให้ลูกค้าสามารถดื่มแอลกอฮอล์ในร้านของท่านได้กระนั้นหรือ?
มีหะดีษรายงานจาก อบู สะอีด อัล-คุดรีย์ ท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวว่า “ใครก็ตามในหมู่พวกท่านเห็นความความชั่วร้าย จงเปลี่ยนแปลงมันด้วยมือ (ด้วยการกระทำ) หากเขาไม่มีความสามารถ จงเปลี่ยนแปลงด้วยลิ้น (โดยการพูด) และหากเขาไม่มีความสามารถ จงเปลี่ยนแปลงด้วยหัวใจ (ด้วยการเกลียดชังและรู้สึกผิด) และนั่นคือศรัทธาที่อ่อนที่สุด” รายงานโดย อิหม่าม มุสลิม (49)
คุณลักษณะอีกประการจากปวงบ่าวของผู้ทรงเมตตา คือสิ่งที่อัลลอฮฺทรงกล่าวถึงพวกเขาในอายะฮฺที่ว่า “และบรรดาผู้ไม่เป็นพยานในการเท็จ และเมื่อพวกเขาผ่านเรื่องไร้สาระ พวกเขาผ่านไปอย่างมีเกียรติ” สูเราะฮฺ อัล-ฟุรกอน อายะฮฺที่ 72
ดังที่ผู้รู้บางท่าน เช่น อิหม่าม อัซ-ซุฮรี่ย์ ให้ความหมายของคำว่า “ความเท็จ คือการดื่มแอลกอฮอล์” ดู ตัฟซีร อิบนุ กะษีร (6/130)
จากที่กล่าวมาข้างต้น ท่านจะต้องไม่อนุญาตไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่จะดื่มแอลกอฮอล์ในร้านของท่าน ไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านจะต้องรับบาปของคนที่ดื่มสุราด้วยตัวท่านเอง จงอย่าได้ลังเลในเรื่องนี้ และท่านจะเห็นผลลัพธ์ของมันในการปฏิบัติตามศาสนาของท่านและในปัจจัยยังชีพของท่าน หากท่านแสวงหารางจากอัลลอฮฺในเรืองนี้
………………………………………………………..……………
ฝ่ายบริการวิชาการ ศวฮ. สำนักงานปัตตานี แปลและเรียบเรียง
ข้อมูhttp://xn--islamqa-guwyc8p2e.com/