อิสลามกำหนดให้สรรพสิ่งส่วนใหญ่ฮาลาล

รศ.ดร วินัย  ดะห์ลัน
ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรร์มหาวิทยาลัย

          คำว่า “หะล้าล” หรือ “หะลาล” ซึ่งคนทั่วไปที่มิใช่มุสลิมในประเทศไทยคุ้นเคยกับการสะกดว่า “ฮาลาล” นั้นเป็นบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในคัมภีร์อัลกุรอ่านหลายวรรคหลายตอน เป็นต้นว่า โดยพื้นฐานแล้วอัลลอฮ์ (ซุบห์) ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งและบันดาลให้เกือบทั้งหมด หะลาล แก่มนุษย์

     “พระองค์ทรงบันดาลแก่สูเจ้าซึ่งสิ่งทั้งปวงในแผ่นดิน” อัลกุรอ่าน 2:29

     “พระองค์ทรงทำให้สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดิน เป็นประโยชน์แก่สูเจ้า” 45:13

      อย่างไรก็ตาม มีบ้างบางสิ่งที่อัลลอฮ์ (ซุบห์) ทรงห้ามซึ่งนับเป็นสัดส่วนน้อยมาก มีผู้ถามท่านศาสดามูฮำมัด (ซอลฯ) ว่า อัลลอฮ์ (ซุบห์) ทรงอนุมัติสิ่งใดและทรงห้ามสิ่งใด ท่านศาสดาได้ตอบว่า

                “สิ่งที่พระองค์ทำให้เป็นที่ถูกต้องในคัมภีร์ของพระองค์ คือสิ่งที่หะลาลและสิ่งที่พระองค์ห้าม คือหะรอม สิ่งที่พระองค์ทรงวางเฉยเป็นที่อนุญาตด้วยพระองค์ ทรงโปรดปราณต่อท่าน”

                หลังจากนั้นท่านศาสดาได้กล่าวอ้างโองการใน คัมภีร์ว่า “แน่แท้พระองค์ไม่ลิมสิ่งใด” อัลกุรอ่าน19:64

         นอกเหนือจากนี้ท่านศาสดายังเคยมีวจนะ ไว้อีกว่า หะลาลคือสิ่งที่อัลลอฮ์ (ซุบห์) ได้อนุมัติ ให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ในคัมภีร์ของพระองค์และหะรอมคือสิ่งที่พระองค์ได้ทรงห้ามไว้ และสิ่งที่พระองค์นิ่งเงียบนั้น พระองค์ได้อนุมัติให้เป็นที่โปรดปราณแก่ท่าน”

           เหล่านี้คือหลักเกณฑ์ใหญ่ที่อิสลามใช้ในการตัดสินใจว่าสิ่งใดฮาลาลและสิ่งใดหะรอม ทั้งนี้โดยการตัดสินว่าทุกสิ่งทุกนั้นฮาลาลยกเว้นแต่สิ่งที่อัลลอฮ์ (ซุบห์) ทรงห้ามไว้เท่านั้น และสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามนั้นจะระบุไว้ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถตัดสินใจได้ในขณะนั้นว่าหะลาลต่อมุสลิมหรือเปล่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคใหม่นั้นมีผลิตภัณฑ์มากมายที่มีองค์ประกอบชวนให้สงสัยหรือก้ำกึ่งว่าหะลาลหรือหะรอมในกรณีเช่นนี้อิสลามให้หลีกเลี่ยง