รายการแข่งขันกีฬาบางประเภทมีตารางการแข่งขันตรงกับช่วงเดือนรอมฎอน นักกีฬามุสลิมกังวลว่าอาจจะมีเกมการแข่งขันในระหว่างที่ถือศีลอด ด้วยความพยายามที่จะจัดการกับปัญหาที่สำคัญนี้และหาทางออก ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของ Sir Roger Gilbert Bannister ผู้ที่เหล่านักกีฬาน่าจะรู้จักบุรุษท่านนี้เป็นอย่างดี
Sir Bannister เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่วิ่งระยะหนึ่งไมล์ภายในเวลาไม่ถึง 4 นาที เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1952 ที่เฮลซิงกิ เมื่อเขาเข้าเส้นชัยเป็นที่สี่ โรเบิร์ตหนุ่มเสียใจมาก เขาคิดถึงขนาดที่ว่าจะเลิกวิ่งแข่งขันอีกต่อไป แต่แล้วเขาก็เอาชนะความผิดหวังของเขาได้ เขาก้าวพ้นประสบการณ์อันข่มขื่นของเขา ด้วยความท้าทายใหม่ คือ เขาตัดสินใจที่จะเป็นนักกีฬาคนแรกที่วิ่งในระยะทางหนึ่งไมล์โดยใช้เวลาให้น้อยกว่าสี่นาที
ในช่วงเวลานั้น นักวิทยาศาสตร์และนักกีฬาเชื่อว่าเป้าหมายนี้เป็นไปไม่ได้ ผู้คนต่างกล่าวว่ามันเป็นเรื่องที่เกินความสามารถของมนุษย์ โรเบิร์ตหนุ่มไม่ยอมแพ้ต่อคำกล่าวอ้างในเรื่องนี้ เขาเพิ่มความเข้มข้นในโปรแกรมการฝึกฝนของเขา และหลังจากนั้นสองปีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 1954 Robert Bannister ได้ถูกบันทึกชื่อลงในกินเนสบุค
แต่เดี๋ยวก่อน นี่ไม่ใช่เหตุผลที่โรเบิร์ตหนุ่มของเราได้กลายเป็นที่รู้จัก Sir Bannister เป็นที่รู้จักไม่ใช่เพราะเป็นคนแรกที่วิ่งระยะทางหนึ่งไมล์ในสี่นาที แต่เพราะเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นผู้ชายที่ได้รับการบันทึกสถิติของเขาในกินเนสบุคโดยมีระยะเวลาที่สั้นที่สุด เพียง 46 วันต่อมาสถิติของโรเบิร์ตหนุ่มก็ถูกทำลายโดย John Landy นักกีฬาชาวออสเตรเลีย
ทั้งหมดที่ Bannister ได้ทำคือการพิสูจน์ว่าเป้าหมายนี้สามารถทำได้จริง ด้วยการทำเช่นนั้นเขาช่วยแก้ไขความเชื่อที่ผิดพลาดที่ได้รับการยึดถือมาอย่างยาวมานานและฉุดรั้งเหล่านักกีฬาเป็นเวลาหลายปี Bannister ไม่เพียงแค่เปลี่ยนสถิติของเหล่านักกีฬาเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนมุมมองของพวกเขา เปลี่ยนการรับรู้ของพวกเขา และเปิดประตูสู่การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่แพร่หลายในปัจจุบันในหมู่โค้ชการพัฒนามนุษย์ ที่เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “The Bannister effect”
เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ทรงพลังของความรู้สึกนึกคิดที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าความสามารถ มันพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นไปไม่ได้ จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าอาหารแท่งให้พลังงานหรือพาวเวอร์บาร์จะเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและเพิ่มพละกำลังให้แก่นักกีฬาหากเขาหรือเธอ ‘เชื่อ’ เช่นนั้น [1]
ประวัติศาสตร์เป็นหลักฐานที่ดีที่สุดในเรื่องของพลังมหัศจรรย์ ความทรหดอดทน และการบรรลุผลสำเร็จที่น่าอัศจรรย์ของมุสลิมในระหว่างที่พวกเขาได้ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เรามี “Bannister effect” ของเราเองจากบันทึกเรื่องราวอันยาวนานของประวัติศาสตร์ เริ่มตั้งแต่รอมฎอนแรกที่ชาวมุสลิมได้ถือศีลอด
ในปี 624 พลังอันน่าทึ่งที่เชื่อมต่อกันของความคิดจิตใจและร่างกายได้เป็นที่ประจักษ์ชัด ในระหว่างการสู้รบในสงครามบะดัรฺ มุสลิมที่ถือศีลอดสามารถต่อสู้และได้รับชัยชนะเหนือบรรดามุชริกจากเมืองมักกะห์ในเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้
ในปี 710 เช่นเดียวกันในเดือนรอมฎอน กองทัพมุสลิมที่นำโดย ฏอริก บิน ซิยาด ได้พิชิตกษัตริย์โรเดอร์ริก และเข้าสู่คาบสมุทรไอบีเรีย และเริ่มต้นการปกครองแบบอิสลามอันน่าอัศจรรย์เหนือนครอันดาลุเซีย ซึ่งใช้เวลากว่า 800 ปี ในการเผยแผ่อิสลามและสร้างอารยธรรมตลอดพื้นที่ของทวีปแอฟริกาและยุโรป
ในปี 1260 สุลต่านซัยฟุดดีน กุตุซ แห่งราชวงศ์มัมลูก ได้นำกองทัพอียิปต์เข้าสู่สงครามที่สมรภูมิอัยน์ ญาลูต และได้พิชิตกองทัพที่ถูกขนานนามว่าไร้พ่ายของชาวมองโกลที่ปาเลสไตน์ และยุติทศวรรษแห่งความทุกข์ทรมานและความยากลำบากของมุสลิม [2] อีกทั้งยังสามารถปราบปรามชาวมองโกลที่ได้ชัยชนะกองทัพต่าง ๆ จากทั้งยุโรปและเอเชีย
นอกจากนี้ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเรา เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม หรือ 10 รอมฎอน 1973 กองทัพอียิปต์ที่ต่อสู้กับอิสราเอลได้ทำลายตำนานของป้อมปราการบาเลฟไลน์และข้ามคลองสุเอซไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองของซีนายในขณะที่มุสลิมกำลังถือศีลอด
วิทยาศาสตร์ได้ล้มเหลวในการอธิบายถึงความทรหดอดทนและผลงานอันน่าทึ่งนี้ของบรรดามุสลิมที่ถือศีลอดในช่วงต่าง ๆ ของประวัติศาสตร์ ‘ Bannister effect ‘ อาจพิสูจน์พลังของจิตใจที่อยู่เหนือร่างกาย และแสดงให้เราเห็นถึงพลังที่น่าอัศจรรย์ของจิตใต้สำนึกของเราเหนือสรีรวิทยาของเรา แต่ก็ไม่ได้คำนึงถึงความจำเริญอันยิ่งใหญ่ในช่วงวันอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าเจตจำนงที่หนักแน่นเป็นเครื่องมืออันทรงพลังอย่างยิ่งและเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ดีที่สุดของจิตใต้สำนึก
และในเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยกับเจตนาที่บริสุทธิ์ของเรา ร่างกายของเราอาจได้รับการตั้งโปรแกรมเพื่อปรับสรีรวิทยาให้บรรลุสู่หนทางปาฏิหาริย์ที่เหนือการยืนหยัดอดทดและอดกลั้นไม่ดื่มกินเท่านั้น ด้วยความตั้งใจที่เรียบง่ายแต่จริงใจ เรากำลังวางแผนจิตใต้สำนึกของเราเพื่อส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและความทรหดอดทน
มีอะไรมากมายในรอมฎอนที่ไม่ใช่เพียงแค่การอดอาหารทางกายภาพหรือการขัดเกลาวิญญาณ ตามที่เราเห็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วว่า การถือศีลอดอย่างจริงใจสามารถบรรลุปาฏิหาริย์ได้อย่างไร การถือศีลอดสามารถเพิ่มความทรหดอดทนและเพิ่มพลังให้ทั้งสมรรถภาพทางจิตใจและร่างกายได้อย่างไร ข้าพเจ้าไม่สามารถอธิบายได้ในที่นี่ แต่พึงระลึกถึงถ้อยคำของผู้เป็นเจ้า
“พระผู้ทรงสร้างจะมิทรงรอบรู้ดอกหรือ ? พระองค์คือผู้ทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วน ผู้ทรงตระหนักยิ่ง” (สูเราะห์ อัล มุลก์ – 67:14)
::เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์สำหรับนักกีฬา::
หากคุณต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมมาสนับสนุนความคิดที่ว่าคุณสามารถถือศีลอดและยังคงสามารถแข่งขันด้วยกับประสิทธิภาพสูงสุดของคุณ คุณจะไม่พบอะไรมากแต่วิทยาศาสตร์นั้นเปลี่ยนแปลงท่าทีอยู่บ่อยครั้ง
ความคิดเห็นและทฤษฎีเกี่ยวกับอาหารชนิดใดบ้างที่ต้องรับประทาน และช่วงเวลาใดที่จะต้องรับประทานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหลายครั้งหลายหนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เช่น เมื่อไม่นานมานี้นักโภชนาการจะแนะนำไม่ให้ทานคาร์โบไฮเดรตก่อนการแข่งขันเนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดการหลั่งอินซูลินและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้นักโภชนาการกลับแนะนำให้นักกีฬากินคาร์โบไฮเดรตก่อนที่จะมีการแข่งขันเพื่อกระตุ้นการสะสมกำลังของกล้ามเนื้อ
แม้ในขณะนี้ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผลกระทบของอาหารและการควบคุมอาหารในการแข่งขันของนักกีฬาเป็นแนวคิดแบบปัจเจกบุคคลโดยสิ้นเชิงซึ่งแตกต่างกันตามรายบุคคลและตามสถานการณ์ที่แตกต่างหลากหลายซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายร้อยประการ ที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อและมุมมองทางจิตใจของนักกีฬา
ดังนั้น ขณะที่ Smolin และ Grosvenor แนะนำว่า “นักกีฬาควรทดสอบผลของมื้ออาหารก่อนการแข่งขันในระหว่างการฝึกซ้อม ไม่ใช่ในระหว่างการแข่งขัน” [3]
สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าอยากเน้นย้ำว่าการวางโปรแกรมทางจิตใจและร่างกายของเราต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี
อิสลามเป็นศาสนาแห่งความสมดุลและความพอดีที่สนับสนุนความเข้าใจในวิธีการทั้งหลายทางโลกนี้พร้อม ๆ กับเครื่องมือทางด้านจิตวิญญาณ ความนึกคิด และอารมณ์ การควบคุมอาหารที่ได้สมดุลครบถ้วนทั้งสารอาหารและวิตามินแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการออกกำลังกายคือแก่นสำคัญสำหรับผลงานในการแข่งขันที่เหมาะสม นักกีฬายังคงสามารถรับสารอาหารที่จำเป็นได้ในช่วงเวลาที่ไม่ต้องถือศีลอด
จงตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรับประทานอาหารที่อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตเพื่อเติมเต็มปริมาณไกลโคเจนสำรองไว้ในกล้ามเนื้อ (ร่างกายของคุณใช้ไกลโคเจนสำรองนี้เป็นเชื้อเพลิงในการให้พลังงานระหว่างการออกกำลังกาย)
หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการแปรรูปและน้ำตาลเชิงเดี่ยว และทดแทนด้วยการกินธัญพืชโฮลเกรน ผักผลไม้ ถั่วและพืชตระกูลถั่วให้มาก ๆ และที่สำคัญที่สุดดื่มน้ำมาก ๆ ในระหว่างช่วง สะฮูร เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายจะมีน้ำเพียงพอตลอดทั้งวัน
………………………………………………………..
อ้างอิง:
[1] Smolin & Govner. 1997. Nutrition: science and applications. Saunders College Publishing.
[2] As-Sergany, R. n.d. http://islamstory.com
[3] Smolin & Govner. 1997. Nutrition: science and applications. Saunders College Publishing.
……………………..
ฝ่ายบริการวิชาการ
ศวฮ.สำนักงานปัตตานี แปลและเรียบเรียง
ข้อมูลจาก aboutislam.net by Amira Ayad