เจลาติน (ตอนที่ 7)
เจลาติน ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการผลิตยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ถูกนำมาใช้เป็นยา เนื่องจากเป็นตัวประสานเพื่อทำให้เกิดเม็ดยาและยาอม เป็นตัวเคลือบเพื่อห่อหุ้มตัวยา เป็นตัวกลางในยาเหน็บทวาร ในฟองน้ำ (sponges) เพื่อหยุดการไหลของเลือด และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นอีกมากมาย หากแต่การใช้เจลาตินในยา แตกต่างจากการใช้เจลาตินในอาหาร เนื่องจากอาหารเราสามารถจะหลีกเลี่ยงในการรับประทานหรือไม่ก็ได้ แต่ยานั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการรักษาชีวิต ยาบางชนิดไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากการรับประทานได้ ด้วยเหตุนี้เจลาตินจากอาหารและยาจึงมีความจำเป็นที่ไม่เหมือนกัน ยาหลายชนิดก็ไม่ได้มีเจลาตินเป็นส่วนประกอบเสมอไป การรับประทานยาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ว่ายาตัวไหนมีความเสี่ยงต่อการเจือปนสิ่งต้องห้าม หรือตัวไหนอนุโลมให้บริโภคได้ แนะนำให้ปรึกษานักวิชาการศาสนาและแพทย์ผู้มีความชำนาญ …
เราลองมาดูกันว่าเจลาตินอยู่ในส่วนประกอบประเภทไหนบ้าง
::แคปซูล (Capsules)::
สมาคมคุ้มครองผู้บริโภคปีนัง (CAP) ได้ดำเนินการสำรวจในปี 1991 พบว่า มีบริษัท เภสัชภัณฑ์รายใหญ่จำนวนสามบริษัทขายยาและวิตามินเสริมในประเทศมาเลเซียและสั่งยาโดยแพทย์ในคลินิก เป็นที่ทราบกันว่าการผลิตแคปซูล เจลาตินชนิดแข็งนั้นผลิตจากหนังของสุกรซึ่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา
บริษัทที่เกี่ยวข้องคือ บริษัท Eli Lilly บริษัท Parke – Davis และบริษัท RP Scherer โดยเจลาตินประมาณ 60% ถูกนำมาใช้โดยบริษัท Parke -Davis และบริษัท RP Scherer ในประเทศแคนาดาเป็นประจำทุกปี ซึ่งมาจากหนังของสุกร
.
ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยในหนังสือ ศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ/ การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD)/ ข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า (GATT)
แคปซูลเจลาตินชนิดแข็งประกอบด้วยเจลาตินบริสุทธิ์และสีผสมอาหารในปริมาณเล็กน้อยที่ประสานเข้าด้วยกัน แคปซูลเจลาตินอีกชนิดคือ แคปซูลชนิดนิ่มหรือแคปซูลยืดหยุ่น ซึ่งมีวิตามินบางชนิดได้บรรจุในแคปซูลชนิดนี้
อุตสาหกรรมยาใช้เจลาติน 6.5% ของเจลาตินทั้งหมดที่ผลิตขึ้น โดยส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้เพื่อการผลิตแคปซูล นับตั้งแต่การค้นพบแคปซูลกว่า 130 ปีที่ผ่านมาโดย Mothes เภสัชกรชาวฝรั่งเศส ซึ่งอุตสาหกรรมได้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
แคปซูลเจลาตินถูกนำใช้โดยผู้ผลิตยา เนื่องจาก
• เจลาตินเหล่านี้ละลายในกระเพาะอาหารหลังจากการรับประทานภายในไม่กี่นาที
• เจลาตินมีความคงตัว แม้เก็บไว้เป็นเวลานานและยาเกือบทุกประเภทที่เป็นของแข็งสามารถบรรจุในแคปซูลได้
• เจลาตินมีรสจืด
::ยาเม็ดและยาอม (Tablet and pastilles)::
เจลาตินทำหน้าที่เป็นสารยึดเกาะในการทำเม็ดยา ในกรณีนี้ เจลาตินจะผสมกับสารตัวเร่งก่อนการบีบอัดเป็นเม็ดยา ขั้นแรกสารตัวเร่งจะเปลี่ยนเป็นเม็ดเล็กหรือชิ้นส่วนเล็กๆ โดยการผสมเข้ากับเจลาตินก่อนที่สารจะถูกนำไปร่อนและทำให้แห้ง นอกจากนี้ได้เพิ่มสารที่ช่วยให้เกิดการกระจายตัว สารหล่อลื่น สารป้องกันการจับตัวเป็นก้อนก่อนบีบอัดเป็นเม็ดยา
ในการทำยาอม (ยาอมแก้ไอ) เจลาตินและกลีเซอรีนถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายและทำหน้าที่เชื่อมประสานในยาอม เป็นวัตถุให้ความเย็นแก่ลำคอและปล่อยสารเร่งปฏิกิริยาออกมาในช่วงเวลาสั้นๆ
::ไมโคลเอนแคปซูเลชัน (Micro-encapsulation)::
ไมโคลเอนแคปซูเลชัน เป็นขั้นตอนหนึ่งของการเคลือบยาด้วยการเคลือบเจลาตินชั้นบาง ๆ เป็นการเคลือบที่ความหนาประมาณ 1-500 ไมครอน เพื่อทำหน้าที่ :
• ป้องกันรสขมจากตัวยา
• แยกสารสองชนิดที่ไม่สามารถผสมเข้าด้วยกัน
• ทำให้ยาแพร่ออกมาอย่างช้าๆ
• ลดโอกาสการซึมผ่านของออกซิเจนที่ทำให้ยาเสื่อมคุณภาพ
::ยาเหน็บทวาร (Suppository)::
ยาเหน็บทวาร เป็นการเตรียมของแข็งชนิดหนึ่งในรูปกระสุนปืนหรือรูปทรงกรวยที่จะสอดเข้าไปในทวารหนักหรือไส้ตรง สารเร่งปฏิกิริยาจะหลอมละลายหรือกระจายไป ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาจำเพาะหรืออวัยวะเฉพาะส่วนของร่างกาย ตัวกลางที่สามารถนำมาใช้ประกอบไปด้วย ไขมัน ขี้ผึ้ง และเจลกลีเซอรอลเจลาติน (glycerol gelatin gel) ตัวอย่างจากเภสัชตำรับของอังกฤษ [British Pharmaceutical Codex (BPC)] กลีเซอรอลและเจลาตินที่เป็นตัวกลางมีองค์ประกอบของเจลาติน 14% และกลีเซอรอล 70%
::ฟองน้ำเจลาติน (Gelatine sponge)::
ฟองน้ำเจลาตินช่วยในการรักษาบาดแผล เนื่องจากเจลาตินสามารถหยุดการไหลของเลือดได้เป็นอย่างดี จึงอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการรักษา
ฟองน้ำเจลาติน ถูกนำมาใช้เป็นประจำในทางทันตกรรม การแพทย์และในการศัลยกรรมสำหรับอุดบาดแผลชั่วคราวเพื่อทำให้เลือดหยุดไหล ได้ทำการทดสอบเจลาตินทางเภสัชภัณฑ์โดยเฉพาะ ในการละลายในสารละลายของเหลวและทำให้เป็นฟองน้ำ ทำให้แห้งอย่างช้าๆ ตัด บรรจุ และผ่านการฆ่าเชื้อ เจลาตินมีคุณสมบัติพิเศษโดยตัวของเจลาตินเองมีพลังในการดูดซับสูงสำหรับเนื้อเยื่อของเหลวตลอดจนตัวที่เข้ากันได้กับเจลาติน ในบางครั้งตัวดูดซับถูกทำให้อิ่มตัวด้วยยาปฏิชีวนะ
::ผงผ่าตัด (Surgical powder)::
เจลาติน หลังจากได้รับความร้อนที่อุณหภูมิ 142 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตัวของเจลาตินจะสูญเสียสภาพการเกิดเจลในน้ำ เจลาตินในสภาพนี้ถูกนำมาใช้เป็นผงฆ่าเชื้อ เมื่อผงเจลาตินถูกโรยบนบาดแผลที่เปิด ก็จะช่วยเร่งในกระบวนการรักษาบาดแผล ซึ่งให้ผลที่คล้ายกับการใช้เจลาตินฟองน้ำห้ามเลือด
::เจลาตินปิดบาดแผล (Gelatine dressing)::
วัสดุส่วนใหญ่เช่นยา Zinc paste ปิดแผล [เภสัชตำรับของประเทศสหรัฐอเมริกา (USP)] หรือ Unna Paste ซึ่งถูกนำมาใช้ในการรักษาแผลเปื่อยจากการกดทับโดยมีเจลาตินเป็นส่วนประกอบหลัก เจลนิ่มมี Zinc oxide (10%) และเจลาติน (15%) ในตัวกลางกลีเซอรีนที่เป็นน้ำกซึ่งระจายในชั้นแต่งบาดแผล นำมาใช้ในการปิดบาดแผลหลอดเลือด ตัวปิดบาดแผลประเภทนี้สามารถกำจัดออกไปหลังจากแช่ในน้ำอุ่น
::วัตถุทดแทนพลาสม่า (Plasma substitute)::
เจลาตินได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเพิ่มพลาสมาที่ดีเยี่ยม ซึ่งถูกนำมาใช้ในกรณีการไหลเวียนเลือดลดปริมาณลงอย่างเฉียบพลัน
……………………………………………………………….
ฝ่ายบริการวิชาการ ศวฮ. สำนักงานปัตตานี
ข้อมูลจากหนังสือ : Consumers Association of Penang. (2006). HARAM HARAM :an Important book for muslim consumers. Pinang. Pulau Pinang Press