(1).ใครที่กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง (มาเลเซีย) ให้ละหมาดที่บ้าน ซึ่งในทางการแพทย์ ถือว่าวาญิบที่ท่านต้องละหมาดที่บ้าน และฮารามไปละหมาดที่มัสยิด
(2).ใครที่มีอาการไม่สบาย ให้ละหมาดที่บ้าน ซึ่งในทางการแพทย์ ถือว่าวาญิบที่ท่านต้องละหมาดที่บ้าน และฮารามไปละหมาดที่มัสยิด
(3). คนที่จะไปละหมาดมัสยิด ให้อาบน้ำละหมาดมาจากบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและติดเชื้อจากก๊อกน้ำ
(4). ให้ทุกมัสยิดปิดแอร์และเปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและติดเชื้อจากการจับลูกบิดประตู
(5). ให้ทุกท่านที่จะไปละหมาดที่มัสยิด พาผ้าปละหมาดไปคนละหนึ่งผืน เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและติดเชื้อจากพื้นมัสยิด
(6). ตอนละหมาดพยายามยืนห่างๆ เท่าที่จะทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและติดเชื้อระหว่างคนสู่คนในระยะประชิด
(7). ไม่สลามแบบสัมผัสมือ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและติดเชื้อจากมือสู่มือ
(8). ละหมาดเสร็จ ให้รีบกลับไปยังบ้านของแต่ละคนให้เร็วที่สุด
สำหรับหมอแล้วสิ่งนี้เสมือน “ฟัรฎู” ในทางการแพทย์ที่ เราต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในช่วงวิกฤตินี้
ขอบคุณมากครับ
……………………………………………………………………
Cr. นพ.กิ๊ฟลัน ดอเลาะ
นายกสมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข………