วันนี้ BIHAPS มีบทความดีๆ เกี่ยวกับเทรนด์ตลาดออนไลน์ ปี 2019 มีอะไรบ้างมาฝากกัน!!!!!!!

BIHAPS WEEKLY EP. 6

ผลจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยน แปลงต่อพฤติกรรมของมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์เป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบันการซื้อขายสินค้าเกิดขึ้นได้ง่ายมาก โดยผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องมาเจอกันแต่ก็การซื้อขายกันได้ผ่านระบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าผ่าน เว็ปไซต์ ผ่าน Facebook ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Lazada, Shopee และทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ตลาดออนไลน์จึงถือเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้เป็นอย่างดีนั้นเอง

#ตลาดออนไลน์คืออะไร!!!

ตลาดออนไลน์คือการทำการตลาดผ่านระบบอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้รวดเร็วและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลก แถมการตลาดออนไลน์ ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ในเรื่องพนักงานขาย การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ในรูปแบบสื่อ และยังทำให้ปริมาณการซื้อ-ขายเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

#ตลาดออนไลน์ปี2019 !!!

ตลาดออนไลน์ปี 2019 นับวันยิ่งทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ใครที่สามารถใช้เครื่องมือทางการตลาดได้หลากหลายและสามารถสร้างความพึงพอใจในสินค้าและบริการได้มากที่สุดเท่ากับสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากกว่าและเป็นการสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี วันนี้จึงมีเทรนด์การทำตลาดออนไลน์ในปี 2019 อย่างไรให้ขายดีมาฝาก ดังนี้

– การมี Website เป็นของตัวเอง: การที่เรามีเว็ปไซตเป็นของตัวเองเป็นการสร้างความความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะลูกค้าเองสามารถที่จะตรวจสอบตัวตนของผู้ขายในระบบร้านค้าออนไลน์ได้

-สร้าง Visual Content: การขายสินค้าอย่างเดียวตอนนี้น่าจะไม่ค่อยดึงดูดลูกค้ามากนัก แต่การสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยภาพ กลับได้รับความน่าสนใจ และการจดจำดีกว่า เช่น วีดีโอ รูปInfographics ภาพที่ใส่บทความ คำคมต่างๆ ตลอดจนการกดไลค์ กดแชร์ เป็นต้น

-ใช้ Application: มี Application มือถือมากมายที่จะเป็นตัวช่วยในการโปรโมทร้านให้กับเราได้อย่างดี ซึ่งร้านค้าเองสามารถเลือก Application ได้ตามความเหมาะสม

-ใช้ช่องทางการสื่อสารให้คุ้มค่า: ปัจจุบันร้านค้าหลายร้านนิยมการทำ Line@ เป็นอย่างมาก เพราะง่ายต่อการสื่อสารและแจ้งข่าวสาร โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้กับลูกค้าได้โดยตรง ตลอดจนการส่งข้อความ Broadcast ซึ่งถือเป็นการใช้ช่องทางการสื่อสารที่คุ้มค่าได้เป็นอย่างดี

-เข้าร่วมเป็นร้านค้าพันธมิตรกับกลุ่มธุรกิจแบรนด์ดัง: เพื่อเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจให้เป็นที่รู้จักผ่านการมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าของแบรนด์นั้นๆ

-ฟังเสียงลูกค้า นำมาปรับให้เข้ากับธุรกิจ: การรีวิวสินค้าของลูกค้า ถือเป็นเสียงสะท้อนที่สำคัญที่สุดของเจ้าของร้าน ที่จะนำเอาข้อมูลไปปรับปรุงพัฒนาต่อยอดได้เป็นอย่างดี

-โปรโมทสินค้าผ่านเว็ปไซต์ยอดนิยมและ Social Media: เพราะในปัจจุบันคนไทยใช้เวลาในการท่องเว็ปไซต์ต่าง ๆ เพื่อความบันเทิงและความรู้เฉลี่ย 9.38 ชั่วโมงต่อวัน นั่นหมายความว่ามีโอกาสสูงที่กลุ่มเป้าหมายจะได้เห็นโฆษณา หรือได้อ่านบทความ Tie-in ของแบรนด์สินค้าของเราได้

-ช่องทางการชำระเงินต้องหลากหลาย: ควรมีช่องทางการชำระสินค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการหักบัญชีผ่านระบบร้านค้า,พร้อมเพย์ หรือการชำระเงินผ่าน Application ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

-ช่องทางการส่งสินค้าที่หลากหลาย: ลูกค้าบางคนรอได้ แต่บางคนรอไม่ได้ การนำเสนอช่องทางการส่งสินค้าที่หลากหลายจะช่วยลดข้อบกพร่องเรื่องระยะเวลาการขนส่งได้ เนื่องจากมีตัวเลือกหลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วทันใจ และไม่ชอบรอนาน

ทั้งหมดนี้คือเทรนด์การทำตลาดออนไลน์ในปี 2019 หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านที่มีธุรกิจจะนำเอาข้อมูลนี้ไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจของตนเองในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดีให้กับธุรกิจในปี 2019 นี้แน่นอน

……………………………………………………………………………
บทความโดย นูรุมา จูและ BIHAPS
ข้อมูลอ้างอิง :สถาบันพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME

จากวิสาหกิจเพื่อสังคม Social Enterprise( SE ) สู่ วิสาหกิจฮาลาลเพื่อสังคม SOCIAL HALAL ENTERPRISE ( SHE )

BIHAPS WEEKLY EP. 5

อัสลามูอาลัยกุม วาเราะฮมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮ
สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ มีบทความดีๆเรื่อง  Social Halal Enterprise  มาฝากกัน

ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจคำว่า วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise (SE) คือ กิจการที่มีจุดมุ่งหมายหลักในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยใช้กลไกการบริหารจัดการที่ดีของภาคธุรกิจมาบวกกับความรู้และนวัตกรรมสังคม มีความยั่งยืนทางการเงินจากรายได้หลักที่มาจากสินค้าหรือบริการโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินบริจาค และมีการนำผลกำไรที่เกิดขึ้นไปลงทุนซ้ำเพื่อขยายผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้น

คุณลักษณะสำคัญของวิสาหกิจเพื่อสังคมมีอะไรบ้าง
1. มีเป้าหมายทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
2. มีรูปแบบการดำเนินการที่มีความยั่งยืนทางการเงิน
3. เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
4. ผลกำไรกลับคืนสู่สังคม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
5. ดำเนินการอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล

องค์กรการกุศลเหมือนกับ SE หรือไม่?
หลายคนสงสัยว่า องค์กรการกุศลเหมือนกับ SE หรือไม่ ต้องขอตอบว่าไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าองค์กรทั้ง 2 แบบมีเป้าหมายทางสังคมเป็นวัตถุประสงค์สำคัญเหมือนกัน แต่องค์กรการกุศลมักมีรายได้จากการบริจาคซึ่งมีความไม่แน่นอน แต่ SE มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าหรือคุณค่าส่งมอบที่กลุ่มลูกค้ายินดีจ่าย ดังนั้นรายได้จะโยงกับคุณภาพ ไม่ใช่ความสงสารหรือเห็นใจ จุดต่างสำคัญจึงอยู่ที่รูปแบบการดำเนินการและโอกาสความยั่งยืนทางการเงินขององค์กร

SE ต้องทำงานกับผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น?
มีความเป็นไปได้สูงว่า SE จะทำงานกับผู้ด้อยโอกาส แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะกิจการเพื่อสังคมมีหลากหลายรูปแบบ จึงสามารถเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมที่หลากหลาย เช่น อาหาร ระบบบริการสาธารณะ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งผลกระทบจะเกิดขึ้นต่อสังคมในวงกว้าง

SE ต่างกับธุรกิจปกติตรงไหน?
SE กับธุรกิจทั่วไป ต่างที่เป้าหมายในการจัดตั้งองค์กรธุรกิจปกติแม้จะทำเรื่องที่อาจสร้างผลกระทบต่อสังคม เช่น สร้างการจ้างงาน แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ฯลฯ แต่มักจะเป็นกิจการที่เน้นการสร้างผลกำไรสูงสุดให้ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของเป็นสำคัญ ในขณะที่กิจการเพื่อสังคมจะเน้นการตั้งกิจการที่มีเป้าหมายทางสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นตัวตั้งสามารถระบุและกำหนดผู้ได้รับประโยชน์และผลกระทบทางสังคมอย่างชัดเจน

CSR = SE?
CSR ไม่ใช่ SE เพราะ CSR คือการนำผลกำไรเพียงส่วนเล็กน้อยมาจัดกิจกรรมทางสังคม แต่ในทางกลับกัน SE เน้นการสร้างผลกระทบทางสังคมผ่านตัวกิจกรรมหลักของกิจการ โดยผลกำไรที่เกิดขึ้นจะนำไปลงทุนซ้ำเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมที่มากยิ่งๆขึ้นไป

ทั้งนี้วิสาหกิจเพื่อสังคมที่เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบัน ได้แก่ โครงการพัฒนาดอยตุง และโรงพยาบาลอภัยภูเบศ  

แล้วฮาลาล จะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้อย่างไร ? 

ทางศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรามี SMEs มีผลิตภัณฑ์ มีเทคโนโลยี มีห้องฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ มีชุมชน มีมัสยิด ที่อยู่ในการดูแลของเรา เป็นจำนวนมาก  เราดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพบุคลากรจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ซึ่งจะสามารถส่งเสริม   วิสาหกิจฮาลเพื่อสังคมได้ในระยะยาว ด้วยพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อันโดดเด่นไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม การนำวิทยาศาสตร์ฮาลาล และธุรกิจฮาลาลจะมีส่วนช่วยพัฒนาสังคมได้อย่างยั่งยืน บนแนวทาง “ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับธุรกิจฮาลาลสร้างรายได้สู่ชุมชน อย่างยั่งยืน”

………………………………………………………………………..
บทความโดย อัสลินดา ระเด่นอาหมัด BIHAPS #BIHAPSWEEKLY
ข้อมูลอ้างอิง สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ

การถือศีลอดช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค

การถือศีลอดหรืออดอาหารมีอยู่หลายวิธี จะขอนำเสนอ #การถือศีลอดแบบอิสลาม ให้กับพวกเราส่วนใครจะใช้วิธีการอดอาหารช่วงสั้นๆแบบ IF หรือ Intermittent Fasting ก็ไม่เป็นปัญหา วิธีการถือศีลอดแบบอิสลามโดยรับประทานอาหารมื้อแรกก่อนแสงตะวันขึ้นซึ่งคือเวลา 5.00 น. สำหรับกรุงเทพฯ อดอาหารอดน้ำทุกอย่างไปจนถึงเวลาดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าซึ่งเป็นเวลา 18.30 น.โดยประมาณ รับประทานอีกหนึ่งมื้อโดยไม่มีมื้ออื่นหลังจากนั้น นอกจากอดอาหารแล้วยังควรลดอาหารต่อวันลงให้ได้พร้อมกันไปด้วย

การอดอาหารเช่นนี้มีงานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่าช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย งานการศึกษาของ Cignarella F และคณะตีพิมพ์ในวารสาร Cell Metabolism ค.ศ.2018 พบว่าการอดอาหารลักษณะนี้ช่วยทำให้สมดุลภูมิคุ้มกันในร่างกายดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแบคทีเรียในทางเดินอาหารปรับตัวสร้างภูมิคุ้มกันมากขึ้นส่งอานิสงค์ให้กับมนุษย์ที่เป็นที่อาศัยของแบคทีเรียเหล่านี้ Secor SM และ Carey HV เขียนรายงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Compr Physiol ค.ศ.2016 ว่าการอดอาหารกระตุ้นให้ร่างกายปรับกลไกเพื่อความอยู่รอดโดยหนึ่งในนั้นคือการเพิ่มภูมิต้านทานโรค ดังนั้นในช่วงที่ต้องกักกันตนเองไว้กับบ้านจึงขอแนะนำให้ถือศีลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการถือศีลอดในเดือนชะอฺบานหรือเดือน 8 ตามปฏิทินอิสลามซึ่งก็คือช่วงเวลานี้ 

Cr. Dr.Winai Dahlan
#drwinaidahlan#ดรวินัยดะห์ลัน

ประตูสวรรค์เปิด ประตูนรกปิด

จากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าจากท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า

“เมื่อใดที่เราะมะฎอนมาถึง ประตูทั้งหลายของสวรรค์จะถูกเปิดอ้า(อย่างกว้างขวาง) ประตูทั้งหลายของนรกจะถูกปิดตรึง และเหล่าชัยฏอนจะถูกมัดไว้”(รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ และมุสลิม สำนวนหะดีษเป็นของมุสลิม)

คำอธิบายหะดีษ

การเยือนมาของเดือนเราะมะฎอนนั้นเป็นสัญญาณแห่งความดีงามแก่ผู้ที่มีความศรัทธา ด้วยความเมตตาและความโปรดปรานของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา พระองค์จึงได้ทรงเปิดบรรดาประตูสวรรค์เสมือนว่าพระองค์ทรงต้อนรับบ่าวที่มีความศรัทธาและมีความภักดีต่อพระองค์ และยินยอมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งทุกอย่างของพระองค์ แม้ว่าจำต้องอดอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนลดความรู้สึกของอารมณ์ใฝ่ต่ำ โดยหวังในผลตอบแทนและผลบุญจากพระองค์เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ในเวลาเดียวกันอัลลอฮฺทรงปิดบรรดาประตูนรก เสมือนว่าได้แจ้งให้ทราบว่านรกนั้นมิใช่เป็นสถานที่สำหรับพวกเขา อัลลอฮฺยังทรงล่ามโซ่บรรดาชัยฏอนมารร้ายที่มีบทบาทสำคัญในสิ่งที่ชั่วร้ายต่อมนุษย์ เพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายสามารถปฏิบัติภารกิจและประกอบอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ อย่างอิสระและสมบูรณ์ปราศจากการรบกวนของชัยฏอนมารร้าย

บทเรียนจากหะดีษ
1. เราะมะฎอนเป็นเดือนอันประเสริฐยิ่งกว่าเดือนอื่นๆ
2. ในเดือนเราะมะฎอนอัลลอฮฺทรงประทานความโปรดปรานอย่างกว้างขวางด้วยการเปิดบรรดาประตูสวรรค์ และทรงปิดบรรดาประตูนรก ขณะเดียวกันอัลลอฮฺยังทรงล่ามโซ่บรรดาชัยฏอนมารร้ายเพราะว่าอัลลอฮฺได้ให้เกียรติแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่ภักดีต่อพระองค์
3. เราะมะฎอนเป็นเดือนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความโปรดปรานและเป็นฤดูแห่งความดีงาม
4. ส่งเสริมให้มีการประกอบความดีในเดือนเราะมะฎอนมากกว่าเดือนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เองพระองค์จึงเปิดบรรดาประตูสวรรค์และทรงปิดบรรดาประตูนรก
5. ผู้ใดที่ไม่สามารถสนองรับความดีงามในเดือนเราะมะฎอนแล้วนั่นก็หมายความว่า เขาผู้นั้นถูกกีดกั้นจากความดีงามอันมากมาย
6. พระองค์ได้ล่ามโซ่บรรดาชัยฏอนมารร้ายไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายสามารถประกอบอะมัลอิบาดะฮฺในเดือนเราะมะฎอนอย่างเต็มความสามารถ และอิสระจากการรบกวนของชัยฏอนมารร้ายทั้งหลาย
7. หากบุคคลนั้นยังคงกระทำความชั่วหรือมะศิยะฮฺในเดือนเราะมะฎอนแล้ว นั่นหมายความว่า ความชั่วนั้นมาจากตัวของเขาเอง

……………………………………………………………………………
Cr. islam more.com

New Normal / ความปกติแบบใหม่หลังวิกฤต Covid-19

BIHAPS WEEKLY EP.21

ถึงแม้ที่ผ่านมาโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) จนถึงยุคของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้อย่าง Digital Disruption แต่วิกฤต Covid-19 นับว่าเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของยุคสมัยสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ความปกติแบบใหม่ หรือ New Normal”

นักวิชาการหลายคนเริ่มคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เมื่อจบเหตุการณ์ระบาดครั้งใหญ่นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้องค์กรต่างๆ สามารถรับมือกับพฤติกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงของคนในสังคม

พฤติกรรมที่ 1 การทำงานที่บ้าน หรือ Work from home
การผสานกันของบ้านและหน้าที่ (Evolving of Home and duty) การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัวด้วยการอยู่บ้าน พร้อมทำงานหรือทำกิจรรมต่างๆ ภายในที่อยู่อาศัยของตนเอง การประชุมระยะใกลผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ จะเป็นหนึ่งในความปกติแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน

พฤติกรรมที่ 2 ซื้อของ และช็อปปิ้งออนไลน์
การสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์จะเป็นเรื่องปกติ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มปริมาณการซื้อมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันหลายธุรกิจได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายสินค้า หรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ โซเชียล แพลตฟอร์มต่างๆ
แน่นอนว่าการเดินทางไปซื้อของที่ร้านจะลดลงไปด้วย

พฤติกรรมที่ 3 สุขอนามัย และความสะอาด
การมีวินัย และการรักษาความสะอาดให้ถูกหลักสุขอนามัยจะเป็นส่วนนึงที่สำคัญในการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม มีกฏระเบียบต่างๆที่ต้องปฏิบัติ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกเคหะสถาน การเว้นระยะห่างระหว่างรอชำระสินค้า การใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของเอลกอฮอลล์ในการฆ่าเชื้อ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เป็นต้น

พฤติกรรมที่ 4 เทคโนโลยีการเงิน
การคำนึงเรื่องความปลอดภัยทำให้ผู้คนเลือกทำธุรกรรมทางการเงินโดยใช้เทคโนโลยีมากขึ้น กลายเป็นความปกติแบบใหม่ด้านการเงิน สังคมไร้เงินสดที่เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งจะยังคงดำเนินต่อไป ปรากฏการณ์การให้ความสำคัญกับสุขอนามัยผนวกกับความสะดวกที่เกิดขึ้น ทำให้เราจะยังเห็นพฤติกรรมการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโลกดิจิทัล การใช้ดิจิทัลแบงกิ้ง (Digital Banking) หรือธนาคารแบบออนไลน์ และการใช้แอปพลิเคชัน e-Wallet

พฤติกรรมเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และเป็นเพียงการคาดการณ์ของหลากหลายสื่อ โดยอิงตามบทความของนักวิชาการที่มีเนื้อหาเปรียบเทียบพฤติกรรมของคนแต่ละยุคสมัย สู่การเป็น New Normal ในยุคสมัยหลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 เป็นการเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยที่พฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เราจำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะการเอาตัวรอด (21st Century Skills) เพื่อยืนหยัดและดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย และประสบความสำเร็จ

…………………………………………………………………………..
Ref : The Standard, BBC Thai

เขียนโดย นายซารีฟ เลาะหามะ
ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจฮาลาลฯ (BIHAPS)
ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ สนง.ปัตตานี

#BIHAPSWEEKLY
#HALALSCIENCEPATTANI
#HSC
#HALALSCIENCECHULA
#SMEs
#บทความวิชาการ

ท่านนบีมูฮัมมัด (ซ.ล.) กล่าวว่า : การทำดีต่อเพื่อนมนุษย์ สามารถปกป้องจากการจู่โจมของสิ่งที่เลวร้าย โรคภัยทั้งหลายและวิบัติภัยต่าง ๆ

(อัต-ติรมิซีย์ 3549 ดู เศาะฮีห์ อัลญามิอ์ อัศเศาะฆีร 4079)

ชุดตรวจจับเนื้อสุกรอย่างง่าย (Easy to Use Pork Detection Kits)

เนื้อสุกร อาจเป็นกษัตริย์ของเนื้อในหลายๆประเทศ แต่หนึ่งในสี่ของประชากรโลกนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นข้อห้ามทางศาสนาในการบริโภคเนื้อสุกร ศาสนาอิสลามนั้นห้ามการบริโภคเนื้อสุกร เนื่องจากมันเป็นบาปและเป็นการกระทำของผู้ฝ่าฝืน ซึ่งได้กล่าวห้ามไว้ในอัล-กุรอานในหลายๆที่ ได้แก่ ซูเราะฮฺอัลบากอเราะฮฺ (2 : 173) ซูเราะฮฺอัลมาอีดะฮฺ (5 : 3) ซูเราะฮฺอัลอันอาม (6 : 145) และซูเราะฮฺอัลนะหฺลฺ (16 : 115) เป็นต้น

ปัจจุบันมีสินค้าหลายชนิดในท้องตลาดที่มีเนื้อสุกรหรือผลพลอยได้จากสุกรเป็นส่วนประกอบ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เกิดความยากลำบากสำหรับการปฏิบัติตัวของมุสลิมในการปรับตัวเพื่ออาศัยอยู่ในสังคมที่ไม่ใช่มุสลิม และในขณะเดียวกันก็ดำรงไว้ซึ่งศาสนาของตัวเขา แต่ปัญหาใหญ่ของเทคโนโลยีอาหารสมัยใหม่ในปัจจุบันที่มีวัตถุเจือปนอาหาร ซึ่งอาจมาจากแหล่งที่ต้องสงสัยต่อสถานะฮาลาล- หะรอมของวัตถุดิบ และเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบผลิตภัณฑ์เนื่องจากรูปร่างและลักษณะปรากฏไม่สามารถทราบถึงแหล่งที่มาได้

เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา Tanaka Kikinzoku Kogyo ผู้ประกอบการชั้นนำด้านโลหะของประเทศญี่ปุ่น ได้ออกแถลงข่าวเกี่ยวกับการพัฒนาชุดตรวจจับเนื้อสุกร อย่างง่าย รวดเร็ว และน่าเชื่อถือ ตามที่ทานากะได้แถลงข่าว ชุดตรวจสอบนี้ใช้อนุภาคนาโนทองคอลลอยด์ (colloidal gold nanoparticles) แขวนลอยอยู่ในของเหลวที่ให้ผลในรูป immunochromatographic ภายในเวลาเพียง 15 นาที ให้ผลที่แตกต่างกันระหว่างตัวอย่างที่เป็นเนื้อสุกรและตัวอย่างที่เป็นเนื้อวัว ดังภาพ

คุณสมบัติหลักของชุดตรวจสอบมีดังนี้
–          ชุดตรวจสอบสามารถดำเนินการได้ภายใน 10- 15 นาที
–          ชุดตรวจสอบสามารถดำเนินการได้ทุกที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษเฉพาะ
–          ชุดตรวจสอบสามารถตรวจจับเนื้อสุกรปรุงสุกต่ำสุดที่ระดับ 0.1 % และเนื้อสุกรดิบที่ระดับ 0.005%
–          ต้นทุนการตรวจสอบถูกกว่าวิธีการใดๆที่มีอยู่

ความไวของชุดตรวจสอบนี้แม้จะเป็นอุบัติเหตุจากการปนเปื้อนอาหารที่มีขนาดเล็กมากๆก็สามารถตรวจจับได้ สิ่งนี้เป็นที่สนใจทั้งผู้ผลิตอาหารในประเทศมุสลิมและบริษัทที่กำลังค้นหาธุรกิจในประเทศที่มีประชากรมุสลิมเป็นสำคัญ

……………………………………………………………………………………………….
ที่มา : http://www.japancorp.net/press_release/22635/tanaka_precious_metals_to_supply_japan_and_islamic_countries_with_easy_to_use_pork_detection_kits_for_the_detection_of_pork_in_food
http://inventorspot.com/articles/pork_detection_kits_are_good_gold_39726



ความน่าสงสัยต่อสถานะฮาลาลของอาหารในร้านอาหารและโรงแรม (จากประสบการณ์ของประเทศมาเลเซีย)

อะไรคือหลักเกณฑ์ที่คุณพิจารณาเมื่อต้องการบริโภคอาหาร?  การมีพนักงานมุสลิม ความสะอาดของสถานที่ เครื่องหมายฮาลาล การประดับประดาด้วยอายะฮฺอัลกุรอานหรือการใช้วลี เช่น “ ม่มีหมู”?  คุณทราบหรือไม่ว่าสิ่งดังกล่าวข้างต้นไม่ใช่หลักประกันว่าอาหารในสถานที่นั้นๆฮาลาล? จากการสำรวจของสื่อมวลชนเมื่อเร็วๆนี้พบว่า  เจ้าของร้านอาหารกว่า  30 ร้านใน  Klang Valley ได้ประดับประดาด้วยอายะฮฺ อัลกุรอานในร้านของพวกเขาซึ่งเป็นวิธีการดึงดูดผู้บริโภคมุสลิม ในหมู่อายะอัลกุรอานเหล่านั้นคือ กาลิมะฮฺ อัลลอฮและมูฮัมหมัด อายัตพันดินาร์ (al-Thalaq 2-3) อายะฮฺกุรซีย์ และอัลฟาติหะฮฺ  ภาพของกะบะฮฺยังถูกนำมาแสดงในบางครั้ง ในขณะเดียวกันนั้นเจ้าของร้านยังคงมีพื้นที่สวดบูชาของพวกเขาในสถานที่เดียวกัน แม้ว่าปัญหานี้ได้รายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่สามารถกระทำการใดๆได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับต่อปัญหาเหล่านี้

          การบิดเบือนความจริงโดยเจ้าของร้านอาหารเหล่านี้ ที่พวกเขาขายอาหารฮาลาลเพียงเพื่ออาศัยเป็นเครื่องมือในการเพิ่มยอดขายของเขาด้วยรูปแบบที่หลอกลวง นักธุรกิจบางรายสนใจเพียงกำไรที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นน แต่พวกเขาไม่ได้กังกลต่อความรู้สึกของมุสลิมในประเทศ ผู้คนจำนวนมากไม่เข้าใจว่า อาหารชนิดใดก็ตามจะต้องประกอบขึ้นตามกฎหมายทางด้านอาหารของมุสลิม  พวกเขาทราบเพียงอย่างเดียวว่า เนื้อหมูเท่านั้นที่ถูกห้ามในศาสนาอิสลาม โดยที่พวกเขาไม่ทราบเลยว่า แม้แต่อุปกรณ์ที่ใช้ปรุงอาหารและสถานที่จัดเก็บในห้องครัว ไม่ควรนำมาใช้เพื่อเตรียมอาหารที่ไม่ฮาลาลหากอุปกรณ์เดียวกันนั้นเป็นอุปกรณ์ที่นำมาใช้เพื่อเตรียมอาหารสำหรับมุสลิม การใช้เครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์เป็นสิ่งต้องห้ามอีกด้วย สำหรับนักธุรกิจบางราย พวกเขามีความคิดเพียงอย่างเดียวที่สำคัญนั่นคือ การมีเครื่องหมายฮาลาลในสถานที่ของเขาเพื่อที่ว่าผู้บริโภคมุสลิมจะอุดหนุนร้านค้าของพวกเขา

ในปีนัง คณะกรรมการอิสลามแห่งปีนัง (MAIPP) ได้ถอดถอนใบรับรองฮาลาลที่ได้ให้กับโรงแรมระดับสี่ดาว เนื่องจากพบว่ามีการใช้ชั้นใต้ดินของโรงแรมเป็นสถานที่ผลิตหมูย่าง โรงแรมได้เริ่มกิจกรรมนี้เมื่อมีการจัดการชั้นใต้ดินที่รับเหมาโดยผู้รับเหมาเอกชน สิ่งนี้ได้ถูกรายงานในสื่อมวลชนท้องถิ่น เมื่อการตรวจค้นได้ดำเนินการซึ่งเจ้าหน้าที่ MAIPP ต่างตกตลึงกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็น เนื่องจากพวกเขาไม่เคยเห็นกรณีที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน

  หลักฐานจากการบันทึกของ MAIPP พบว่า โรงแรมได้ครอบครองหนังสือรับรองฮาลาลอย่างถูกต้อง นับตั้งแต่โรงแรมได้เริ่มดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 5 ปี และได้ทำการต่อสัญญาทุกๆปีโดยปราศจากปัญหาใดๆ เป็นที่ทราบกันว่า โรงแรมแห่งนี้มีสาขาใน Kuala Lumpur ซึ่งบ่อยครั้งได้ให้บริการหน่วยงานราชการจำนวนมาก เพื่อจัดสัมมนา จัดประชุมและการชุมนุมของพนักงานและเจ้าหน้าที่

         ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า โรงแรมแห่งนี้ได้ทำตามข้อกำหนดที่ติดตั้งโดย MAIPP ตลอดเวลา เขากล่าวว่าอาหารที่บริการ ณ งานจัดเลี้ยง และบ้านกาแฟนั้นฮาลาล และมีการรับรองจาก MAIPP อย่างไรก็ตามมีพื้นที่ว่างบางแห่งในโรงแรมที่ให้ผู้ทำสัญญาจากภายนอกเช่า เพื่อทำเป็นร้านอาหาร โดยปราศจากการรับรองฮาลาล จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีการร้องเรียนใดๆจากทาง MAIPP เกี่ยวกับการรับรองฮาลาลนี้ เนื่องจากพวกเขาได้ดำเนินการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่วางไว้ ผู้จัดการด้านอาหารและเครื่องดื่มได้กล่าวว่า เขาไม่ได้รับการแจ้งให้ทราบว่าหนังสือรับรองฮาลาลของโรงแรมได้ถูกถอดถอน โรงแรมแห่งนี้คือหนึ่งใน 13 โรงแรมของปีนัง รวมทั้งโรงแรมต่างประเทศบางแห่งที่ได้รับการรับรองฮาลาลจาก MAIPP

          กรณีข้างต้นน่าจะเพียงพอต่อการเตือนสติผู้บริโภคมุสลิมเพื่อความระมัดระวังเมื่อพวกเขาเลือกรับประทานในร้านอาหารและโรงแรม

          ยังได้มีการตีพิมพ์รายงานที่ได้แจ้วว่า ในปีนัง MAIPP ได้ออกเครื่องหมายรับรองฮาลาลในสถานประกอบการด้านอาหารทั้งหมด 116 รายการภายใต้ 13 ประเภท ประกอบด้วย โรงฆ่าสัตว์ (10), โรงแรม(15), nasi kandar (6), ส่วนประกอบอาหาร(1), ร้านกาแฟและอาหาร(21) MAIPP ยังได้ออกหนังสือรับรองฮาลาลแก่โรงงานผลิตเครื่องดื่มปรุงแต่งกลิ่นรส(11), ซอสถั่วเหลือง, เต้าเจี้ยวและ rojak sauce(6), ขนมปัง, เค้ก, และบิสกิต(8), น้ำมันปรุงอาหาร(6), หอมทอด(2), เครื่องเทศ(7), ขนมขบเคี้ยว(1) และผลิตภัณฑ์อาหาร(22)

         มุสลิมไม่ควรคิดเพียงว่าสภาพฮาลาลของอาหารต่างๆขึ้นอยู่กับกระบวนการเชือดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น พวกเขาจะต้องตระหนักถึงความจริงที่ว่า เครื่องครัว ถ้วยจาม และอุปกรณ์สำหรับปรุงอาหารต้องปราศจากสิ่งหะรอม ก่อนอาหารที่ได้รับบริการจะสามารถพิจารณาได้ว่าฮาลาล

เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการอภิปรายในรัฐสภาต่อการรับรองฮาลาล ผู้อภิปรายได้ยกปัญหาของภัตตาคารอาหารแห่งหนึ่งซึ่งบริการอาหารฮาลาล แต่มีสุราบนเมนูของพวกเขาควรได้รับการรับรองฮาลาลหรือไม่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (The Minister in the Prime Minister’s department) ดาโต๊ะ      อับดุลลอฮ มิด ซิน (Datuk Dr. Abdullah Md zin) ได้ให้คำตอบต่อการตั้งกระทู้ถามโดยกล่าวว่า ถ้ามีการปะปนรายการที่ฮาลาลและไม่ฮาลาล ก็จะไม่ได้รับการรับรองฮาลาล

ยังชี้ให้เห็นว่า สุรานั้นได้ถูกบริการบนสายการบินมาเลเซีย ต่อคำถามนี้ ดาโต๊ะ อับดุลลอฮ ได้กล่าวว่า หากมีการร้องเรียน ดังนั้นทางกรมศาสนาก็จะทำการสืบสวน อย่างไรก็ตาม ตามที่ระบุในจดหมายมายัง CAP ลงวันที่ 12 กันยายน 2005 สายการบินมาเลเซีย ได้กล่าวว่า อาหารที่ได้บริการบนเที่ยวบินจาก Kuala Lumpur และ Penang ทั้งหมดนั้นฮาลาล และมีการรับรองฮาลาลจาก JAKIM

         ถึงแม้ว่า สุราจะไม่ถูกบริการของสายการบินภายในประเทศ แต่สุราได้ถูกบริการในระหว่างมื้ออาหารบนสายการบินระหว่างประเทศ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ถ้ามีรายการฮาลาลและไม่ฮาลาล ปะปนกันก็จะไม่ได้รับการรับรอง แล้วเหตุใดที่ JAKIM จึงรับรองว่าอาหารที่ให้บริการบนสายการบินมาเลเซียนั้นฮาลาล?

……………………………………………………………………………………..
แปลและเรียบเรียงจาก
Consumers Association of Penang. (2006) . HARAM HARAM :an Important book for muslim consumers.  Pinang. Pulau Pinang Press. Page 36-38

มุมมองอิสลามที่เกี่ยวกับเลือดและปัญหาการใช้ประโยชน์จากเลือดในผลิตภัณฑ์อาหาร

อัลลอฮฺกล่าวไว้ในอัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัลมาอีดะฮฺ (5:3) ความว่า“ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งสัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกรและสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮ์ ที่มัน (ขณะเชือด) …” สิ่งนี้ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า เลือดเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับมุสลิมเพื่อการบริโภค เนื่องจากมันถูกพิจาณาว่าเป็นสิ่งสกปรกและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

เลือดเป็นของเหลวที่มีความสำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิต ซึ่งทำหน้าที่ในการขนถ่ายสารอาหารไปยังเซลล์สิ่งมีชีวิตทั้งทางด้านร่างกายของมนุษย์และสัตว์ พลาสมาเป็นส่วนของเหลว ซึ่งประกอบไปด้วยสารประกอบที่นำไฟฟ้า สารอาหาร วิตามิน ฮอร์โมน เกล็ดเลือด และโปรตีน

ปัญหาด้านฮาลาลต่อการใช้ประโยชน์จากเลือดในผลิตภัณฑ์อาหาร

                  มีผลิตภัณฑ์อาหารจำนวนมากที่มีแนวโน้มการนำเลือดมาใช้ในผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ในขั้นตอนการเตรียมไส้กรอก เลือดสัตว์ที่ผ่านการปรุงจะถูกนำเข้าเครื่องอัด (ที่ประกอบด้วย เนื้อ ไขมันและแป้ง) อัดรวมกันจนกระทั่งมันหนาเพียงพอที่จะทำให้แน่นเมื่อได้รับความเย็น เลือดจากหมูและโคนั้นบ่อยครั้งที่ถูกนำมาใช้ในกรณีนี้ นอกจากนี้ เลือดยังถูกนำมาใช้เพื่อทำให้ซอสปรุงรสและกุญเชียงมีความข้น เนื่องจากมันมีความสามารถทำให้เกิดกลิ่นรสหรือสีในเนื้อ 

   จากมุมมองอิสลาม มีการแบ่งเลือดออกเป็น 2 ชนิด นั่นคือ เลือดที่อยู่ในระบบหมุนเวียนเลือดแบบวงจรปิด (ตัวอย่างเช่น โค แพะ) ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับการบริโภค และเลือดที่อยู่ในระบบหมุนเวียนเลือดแบบวงจรเปิด (ตัวอย่างเช่น ปลา กุ้ง และตั๊กแตน) ซึ่งเป็นสิ่งที่อนุมัติให้ทำการบริโภคได้  เกี่ยวกับเรื่องนี้ อิบนุ อับบาส (ร.อ.) ครั้งหนึ่งได้ถูกถามเกี่ยวกับเรื่องม้าม ท่านได้ตอบว่า มันเป็นสิ่งที่อนุมัติให้บริโภคได้ ไม่ใช่กลุ่มเลือดที่ต้องห้าม

อีกอย่าง เลือดยังถูกนำมาใช้สำหรับน้ำแกงและสตู  นอกจากนี้ ผงพลาสมาจากเลือดในรูปเข้มข้นหรือไฮโดรไลท์ถูกนำมาใช้ประโยชน์ เป็นส่วนประกอบขั้นต้นของการผลิตภัณฑ์ซูริมิ เพื่อเพิ่มคุณภาพของซูริมิ กลุ่มของนักวิจัยได้รายงานว่า ผงโปรตีนพลาสมาจากเลือดเข้มข้นมีความสามารถในการปรับปรุงการก่อรูปเจลของซูริมิและทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของแรงเฉือนและความแน่นของเจลซูริมิ การปรับปรุงคุณภาพเชิงหน้าที่ของซูริมิโดยการเติม ผงพลาสมานั้น ส่งผลให้เกิดการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์โพรติโอไลติก

 เนื่องด้วยประโยชน์อันมากมายของเลือดในผลิตภัณฑ์อาหาร ด้วยเหตุนี้ผู้บริโภคมุสลิมมีแนวโน้มจะถูกหลอกและเจือปนสิ่งเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์  มีแนวโน้มการเติมผลิตจากเลือดในอาหารเสริมของพวกเขาเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านธุรกิจโดยปราศจากการติดฉลากที่แท้จริง ผู้บริโภคที่ทราบเรื่องนี้ได้มีเพิ่มมากขึ้นและเริ่มกลับไปซื้ออาหารที่บริสุทธิ์ที่เริ่มมีขายอยู่ในปัจจุบัน

……………………………………………………………………………………….
แปลและเรียบเรียงจาก
Halal Products Research Institute.  Scholar’s Note.  Info Halal. Volume4/issue 1.  Jan-Jun 2010