อิหม่าม อัช ชาฟิอียฺ
การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั้น นับว่าเป็นความโปรดปราณจากอัลลอฮฺที่ทรงมอบให้กับปวงบ่าวของพระองค์
“พวกท่านทุกคนจงทานด้วยมือขวา และจงดื่มด้วยมือขวา จงรับด้วยมือขวาและจงให้ด้วยมือขวา…เพราะแท้จริงแล้ว…ชัยฏอนนั้นจะทานด้วยมือซ้าย ดื่มด้วยมือซ้าย จะให้ด้วยมือซ้าย และจะรับด้วยมือซ้าย”
ท่านนบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าว
—————————–
(เศาะฮีหฺสุนันอิบนุมาญะฮ หมายเลข 2643)
อาหารที่ฮาลาล ย่อมส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจ ส่วนอาหารที่ ฮารอม ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจเช่นเดียวกัน
การแบ่งปันอาหารให้ผู้ร้องขอ นับว่าเป็นความเมตตายิ่งที่มนุษย์มอบให้แก่กัน
อย่างปล่อยให้เคยชินอยู่กับการรับประทานอาหารที่หะรอม เพราะมันจะกลายเป็นเลือดเนื้อที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
ผลิตภัณฑ์จากสุกร
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน
เมื่อไม่รู้ดูเหมือนว่าทำอะไรก็ไม่ผิด ไม่รู้อย่างนั้นแม้จะสะดวกต่อการดำเนินชีวิตแต่ในโลกยุคใหม่การทำตัวเป็นผู้ไม่รู้ไปตลอดดูท่าจะไม่เหมาะ เพราะมนุษย์มีสติปัญญา เดี๋ยวนี้กลายเป็นผู้มีความรู้มากขึ้น พฤติกรรมจึงเปลี่ยนแปลงไปตามความรู้ที่เพิ่มขึ้น จะซื้อรองเท้า ซื้อเครื่องหนังก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าวัตถุดิบที่เอามาใช้มาจากผลิตภัณฑ์ต้องห้ามหรือเปล่าอย่างเช่นเป็นหนังสุกรหรือหนังหมู นั่นต้องไปห่างๆเลย แต่ไม่ถึงขนาดดูว่าโรงงานที่ผลิตใช้แรงงานทาสหรือเอาเปรียบแรงงานหรือเปล่า นั่นเป็นสิ่งที่ชาวยุโรปเขาสอนกัน
ผมไปบราซิลรอบที่แล้ว คณะกรรมการตรวจรับรองฮาลาลที่นั่นเขาตรวจที่มาของแรงงานด้วย การรับรองฮาลาลที่บราซิลบ่อยครั้งเขาดูด้วยว่าต้องไม่เป็นแรงงานทาสหรือมีการเอารัดเอาเปรียบแรงงานกัน ต่อไปบ้านเราก็ต้องทำแบบเดียวกับเขา เพราะจริยธรรมกับฮาลาลเป็นเรื่องที่ต้องเดินไปด้วยกัน
วันนี้เรียนรู้มากขึ้น ดูออกว่าหนังสัตว์ที่ใช้เป็นสัตว์ประเภทไหน หากเป็นหนังหมูดูไม่ยากสักเท่าไหร่ สุกรหรือหมูนอกจากเอาหนังมาทำเครื่องหนังแล้ว หลายส่วนของสุกรยังเอามาใช้ผลิตอะไรต่ออะไรเยอะแยะ ขนาดเอาผลิตภัณฑ์จากเลือดมาทำไส้กรองบุหรี่ก็ยังมี กระดูกสุกรเอามาทำสารผสมในถ้วยชามประเภทไชน่าแวร์ ทำกาว กระดุม หรือแม้กระทั่งสารเคลือบเงา ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆจากสุกรเอามาใช้ทำอะไรได้บ้าง ดูจากรูปก็แล้วกัน เมื่อรู้แล้วระวังกันไว้บ้างก็ดี
เจลาติน (ตอนที่ 5)
อาหารและสินค้าอื่นๆที่มีเจลาตินเป็นส่วนประกอบ
การใช้เจลาตินในผลิตภัณฑ์อาหารเกือบทุกชนิดกลายเป็นเรื่องสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากความจริงที่ว่าเจลาตินที่รับประทานได้นั้น เป็นอาหารที่มีความโดดเด่น โดยมีโปรตีนที่ย่อยได้โดยทันทีในปริมาณมาก ตรงข้ามกับสารให้ความแน่นเนื้อและอิมัลซิไฟเออร์ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ เจลาตินยังมีความหลากหลายและมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกเจลาตินที่ตรงกับความต้องการของเขา
หมากฝรั่ง
ความสำคัญประการหนึ่งในการนำเจลาตินมาใช้ประโยชน์นั่นคือ การนำไปใช้ในกระบวนการผลิตหมากฝรั่ง โดยทั่วไปเจลาตินที่มีเจลแข็ง และความหนืดต่ำ เป็นที่ยอมรับว่ามีความดีเลิศสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีเจลาติน 7-10 %
ลูกกวาด
ของหวานประเภทนี้มีมากมายหลายชนิด เจลาตินหลากหลายชนิดกันถูกเลือกให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีเนื้อสัมผัสและสูตรของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ประกอบด้วย เจลาติน 0.5 – 1.5 % ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของเจลาตินด้วย
เยลลี
ในหลายๆประเทศ สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการนำเจลาตินมาใช้ประโยชน์นั่นคือ การผลิตขนมหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยลลี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ประกอบด้วยเจลาตินที่ให้เจลแข็งผสมกับน้ำตาล กลิ่นที่ได้มาจากกรดอินทรีย์และสี ในผลิตภัณฑ์สุดท้ายของเยลลีมีปริมาณ เจลาตินประมาณ 2.5-5 %
แยม มาร์มาเลดและผลิตภัณฑ์ทาหน้าขนมปังอื่นๆ
กระบวนการแปรรูปแยม มาร์มาเลตและอื่นๆ มีการใช้เจลาตินเพื่อวัตถุประสงค์ของกระบวนการเจลาติไนซ์ (ปรากฏการณ์ของน้ำแป้งเมื่อได้รับความร้อน–ผู้แปล) การปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความข้นหนืดของสารละลาย
น้ำผลไม้
ในน้ำผลไม้ เจลาตินถูกเติมเข้าไปเพื่อทำหน้าที่เป็นสารช่วยให้เกิดการตกตะกอน ขจัดความขุ่นมัวและช่วยเพิ่มความใสให้กับผลิตภัณฑ์ ผู้ผลิตน้ำผลไม้บางรายใช้เจลาตินเพื่อทำให้น้ำผลไม้มีความเข้มข้นขึ้นและยังเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย เนื่องจากตัวของเจลาตินเองมีคุณสมบัติที่ทำให้เกิดฟอง จึงเป็นเรื่องง่ายในการแปรรูปเพื่อให้ได้ปริมาณและรสชาติที่ดีขึ้น
โยเกิร์ต
การผลิตโยเกิร์ตรสผลไม้ที่ได้จากกวนและผ่านการพาสเจอร์ไรซ์นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากสารที่ทำให้เกิดความคงตัวอย่างเช่น เจลาติน ผู้ผลิตโยเกิร์ตโดยส่วนใหญ่ที่ผลิตโยเกิร์ตแบบธรรมดายังใช้เจลาตินเพื่อเพิ่มความแน่นเนื้อและคุณค่าทางโภชนาการ และยังช่วยป้องกันการแยกชั้นของเวย์ (Whey) อีกด้วย คุณสมบัติที่ทำให้เกิดความคงตัวของเจลาตินนี้ยังทำให้เกิดการกระจายของอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอในผลิตภัณฑ์
ไอศกรีม
ในการผลิตไอศกรีม เจลาตินทำหน้าที่เป็นสารให้ความคงตัว การมีเจลาตินในผลิตภัณฑ์สร้างความมั่นใจได้ว่า ไอศกรีมจะไม่แข็งจนเกินไปหากเก็บที่อุณหภูมิต่ำและระยะเวลานาน หรือจะไม่หลอมละลายได้ง่าย เจลาตินชนิดบลูม 200 และชนิดที่สูงกว่าช่วยให้ไอศกรีมมีเนื้อสัมผัสที่นิ่มและละลายในปากอย่างนุ่มนวล ในช่วงระยะเวลาของการบ่มไอศกรีม เจลาตินจะไปขัดขวางการเจริญเติมโตของผลึกน้ำแข็ง และคุณสมบัติการเกิดฟองของเจลาตินจะเป็นตัวช่วยในขั้นตอนการผสม
เจลาตินยังช่วยในการแพร่กระจายกลิ่นและสารเติมแต่งทั่วทุกส่วนของเนื้อไอศกรีม เจลาตินบลูมขนาดกลางและสูงถูกนำมาใช้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีดังคุณสมบัติข้างต้นที่กล่าวมา เจลาตินยังช่วยรักษาความหนืดของไอศกรีมให้ต่ำลงอีกด้วย
เนยแข็งไขมันต่ำ/เนย/มาการีน
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการได้แนะนำการบริโภคผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ โดยพวกเขาได้เสนอแนะให้ลดปริมาณไขมันในเนยและมาการีนที่มีอยู่จาก 80% ลดลงเหลือ 40% เพื่อให้เกิดความคงตัวของอิมัลชันในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงต้องมีการเติมเจลาติน 0.5-15% ตามที่ได้รับการแนะนำ การเลือกชนิดของเจลาตินจะดำเนินการหลังจากได้พิจารณาสารอิมัลซิไฟเออร์ที่จะนำมาใช้
……………………………………………………………………………………….
ฝ่ายบริการวิชาการ ศวฮ. สำนักงานปัตตานี แปลและเรียบเรียง
ที่มา : Consumers Association of Penang. (2006). HARAM HARAM :an Important book for muslim consumers. Pinang. Pulau Pinang Press
ผลิตภัณฑ์จากหมูที่พบในชีวิตประจำวัน
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน
คริสเตียน เมนเดอร์ตสมา (Christien Meindertsma) สาวชาวดัทช์เป็นนักวิจัยด้านสังคมวิทยาใช้เวลาสามปีตั้งแต่ปี 2009-2011 ค้นคว้าวิจัยเรื่องเดียวคือ “สุกร” หรือหมูเพราะอยากรู้ว่าหมูนั้นนอกจากจะนำไปบริโภคอย่างที่นิยมทำกันแล้วไม่ว่าจะเป็นเนื้อ ไขมัน คอ ขา หัว หู เครื่องใน ยังมีอะไรอีกที่สามารถนำชิ้นส่วนของหมูไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้บ้าง ปรากฏว่าเธอพบ 185 ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากหมู
เธอเขียนหนังสือขึ้นมาหนึ่งเล่มชื่อ Pig 05049 บรรยายถึงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาจากชิ้นส่วนของหมู ลองไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง เอาพอเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน
สบู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสบู่ที่ผิวเป็นมันคล้ายมุก, แชมพู, ครีมต่อต้านริ้วรอย, โลชั่นบำรุงผิว, ยาสีฟัน, แปรงปัดเค้ก, คอนกรีตชนิดเบาบางชนิดผสมกระดูกหมูลงไปด้วย, ผ้าเบรกรถไฟโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาจากเยอรมนีที่มีการผสมเถ้ากระดูกหมู, ชีสเค้กและขนมประเภทมูสช็อคโกแลต, ทีรามิสุ, พุดดิ้งวานิลลามีการผสมเจลาตินจากหนังหมู, เครื่องกระเบื้องที่เรียกว่าไชน่าแวร์, สีทาบ้านสำหรับพื้นผิว, กระดาษทรายกาวบางชนิดมีการผสมกระดูกหมูป่น, พู่กันจากขนหมู
สเต้กเนื้อวัวบางชนิดที่แช่แข็งมีการนำเศษเนื้อวัวที่ใช้เยื่อหรือไฟบรินจากเลือดหมูทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมให้เนื้อติดกัน, สเต้กปลาทูน่าหรือสเต้กหอยสแคลลอปมีการใช้ไฟบรินหมูเป็นกาวเชื่อมทำให้เห็นเป็นชิ้นใหญ่, เบียร์ ไวน์หรือแม้กระทั่งน้ำผลไม้ที่กรองเอาความขุ่นออกโดยตัวกรองที่เป็นเจลาตินจากหมู,
สารฮีโมโกลบินในเลือดหมูเป็นตัวกรองสารบางชนิดทางบริษัทผลิตบุหรี่บางแห่งจึงใส่ฮีโมโกลบินหมูลงในไส้กรองบุหรี่, คอลลาเจนหมูใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับฉีดเพื่อแก้ไขรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและผิวหนัง, กระสุนบางประเภทมีการผสมคอลลาเจนหมูไว้ด้วย, ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์อย่างเช่นลิ้นหัวใจ ยังมีอีกมากมายที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากหมู
เขียนให้ระวังกันไว้ไม่ได้ตั้งใจจะให้กลัว