ลองนึกภาพเวลาที่คุณส่องกระจกขณะแปรงฟันแล้วคุณก็สังเกตเห็นว่าพุงของคุณเวลาเขย่านั้นมันเริ่มเด้งขึ้นลงไม่เหมือนปกติ?
นั่นอาจเป็นครั้งแรกที่คุณเริ่มสังเกตเห็นว่าหน้าท้องของคุณเริ่มมีพุงยื่นออกมานิดหน่อยหรืออาจจะยื่นออกมามาก แต่นั่นเป็นเหตุผลที่คุณตัดสินใจว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องกลับเข้ายิมเล่นฟิตเนสอีกครั้ง
หน้าท้องที่ใหญ่ขึ้นหรือบางครั้งเราก็เรียกมันว่าลงพุง ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของโรคอ้วนที่เป็นผลมาจากการสะสมไขมันส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นในบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่มักพบเป็นปกติในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
ผู้หญิงนั้นมีแนวโน้มที่จะมีไขมันส่วนเกินในบริเวณสะโพกและต้นขามากกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงจะลงพุงไม่ได้
การลดไขมันบริเวณหน้าท้องไม่ได้เป็นเพียงสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณดูดีขึ้น แต่มันยังเป็นเรื่องที่สำคัญต่อสุขภาพที่ดีของคุณอีกด้วย
โรคอ้วนโดยทั่วไปมักทำให้คนอ่อนแอต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง แต่โรคอ้วนที่จำกัดอยู่ที่การลงพุงจะทำให้คนอ่อนแอต่อโรคเฉพาะบางอย่างมากยิ่งขึ้น
:: มายาคติที่มีต่อไขมัน ::
ถ้าคุณต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องของคุณ คุณจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับความเข้าใจผิดบางอย่างที่เรามักพบกันบ่อย
อย่างแรก และสำคัญที่สุด ไม่มี “ยามหัศจรรย์” หรือ “อุปกรณ์วิเศษ” ใด ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเผาผลาญไขมันได้เร็วขึ้น มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งต้องใช้ความมุ่งมั่นยืนหยัดเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ
อย่างที่สอง ที่คุณควรรู้คือ จำนวนการซิทอัพของคุณ ไม่ว่าจะทำไปจำนวนเท่าไหร่ก็ไม่ทำให้คุณกำจัดไขมันได้มากขึ้น คุณสามารถซิทอัพจำนวนหลายร้อยต่อวัน แต่ผลลัพธ์ที่คุณจะได้ก็คือกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งดั่งหินที่ซ่อนอยู่ภายใต้ไขมันชั้นต่าง ๆ ที่ซ้อนไว้ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการออกกำลังกายนั้นไม่สำคัญ แต่การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ
วิธีเดียวที่จะกำจัดไขมันได้ก็คือการเผาผลาญพลังงานให้ได้มากกว่าที่คุณรับประทาน นั่นคือช่วงเวลาเดียวที่ร่างกายจะใช้พลังงานที่เก็บไว้ในเซลล์ไขมัน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ คุณจะต้องเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีทั้งหลายและปรับปรุงวิถีชีวิตของคุณ หากคุณสามารถยืนหยัดรักษาพฤติกรรมเหล่านี้ได้ คุณจะประหลาดใจกับผลลัพธ์เชิงบวกที่ทำให้คุณเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องยาก
เพื่อให้ภารกิจนี้ง่ายขึ้นสำหรับคุณ นี่เป็นเคล็ดลับบางอย่างที่คุณสามารถทำตามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
:: ระวังอาหารที่คุณกิน ::
หลีกเลี่ยงอาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน คุณควรลดปริมาณแคลอรีทั้งหมดลง เพราะอย่างที่เรากล่าวมาก่อนหน้านี้ ถ้าร่างกายคุณไม่เผาผลาญมากกว่าที่คุณทานเข้าไป เซลล์ไขมันของคุณก็จะไม่หายไปไหน
พยายามแบ่งมื้ออาหารของคุณเป็น 5 – 6 มื้อเบา ๆ แทนการรับประทานอาหารทีเดียว 3 มื้อหนัก เมื่อร่างกายไม่ได้รับอาหารเป็นเวลานาน ร่างกายก็จะเข้าสู่โหมดอดอาหาร
ในช่วงเวลานี้ ร่างกายจะลดการทำหน้าที่เผาผลาญอาหารให้เบาลงมาก การรับประทานอาหารแบบปกติจะเพิ่มเมตาบอลิซึม เนื่องจากร่างกายจะไม่ต้องเข้าสู่โหมดอดอาหาร การรับประทานมื้ออาหารถี่ขึ้นนี้จะช่วยเผาผลาญไขมันมากขึ้นตลอดทั้งวัน
พยายามกินอาหารเช้าให้เร็วขึ้น พยายามให้เร็วที่สุดหลังจากตื่นขึ้นมา นี่คือการชดเชยความอดอันยาวนานขณะที่คุณกำลังนอนหลับในเวลากลางคืน
รับประทานอาหารมื้อใหญ่ในตอนเช้าและทานอาหารมื้อเล็ก ๆ ต่อไปจนกระทั่งเวลานอน นี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะอาหารที่กินในตอนเช้าจะถูกใช้ตลอดทั้งวันเพื่อสร้างพลังงาน
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณกินอาหารมื้อใหญ่ในตอนเย็น อาหารที่ทานส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้เป็นไขมันขณะที่คุณนอนหลับ เพราะมันไม่ได้ถูกใช้
ลด ละ เลิกอาหารขยะ ให้เปลี่ยนไปทานอาหารเพื่อสุขภาพหรืออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการแทน อาหารขยะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคอ้วนทั่วโลก นอกจากนี้ พยายามลดน้ำตาลทรายขาวและอาหารแปรรูปด้วย
คุณอาจจำเป็นต้องพัฒนาอีกหนึ่งนิสัยที่สำคัญที่สุดคือ ควรหยุดกินเมื่อรู้สึกอิ่มแล้ว อย่ากินมากจนทำให้ท้องแน่นเกินไป นอกจากมันไม่ดีต่อสุขภาพแล้วมันยังเป็นสาเหตุของการเพิ่มไขมันในร่างกายของคุณและทำให้คุณปวดท้องด้วย!
:: ระวังน้ำที่คุณดื่ม ::
เลิกดื่มเบียร์ ถ้าคุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะเลิกดื่มมัน มีการเรียกพุงที่ยื่นออกมากันว่า “พุงเบียร์” แม้ว่าไม่มีความเข้าใจใดที่ช่วยอธิบายว่า เบียร์ที่ดื่มไปมันไปเพิ่มไขมันรอบ ๆ หน้าท้องได้อย่างไร
ถึงกระนั้น แพทย์ส่วนใหญ่ก็มีความเห็นตรงกันว่าระหว่างการดื่มเบียร์และไขมันหน้าท้องที่เพิ่มขึ้นนั้นมีความสัมพันธ์ต่อกันแน่นอน ความจริงอาจเป็นว่าเบียร์นั้นมีค่าแคลอรีที่สูงมาก ๆ
พยายามอย่าดื่มน้ำอัดลมด้วย น้ำอัดลมส่วนใหญ่มีค่าแคลอรีสูงประมาณ 150 แคลอรีต่อกระป๋อง ลองนับจำนวนกระป๋องที่คุณดื่มในทุก ๆ สัปดาห์สิ คุณจะตระหนักได้ว่าที่ดื่มไปทั้งหมดตลอดทั้งสัปดาห์ คุณอาจได้รับแคลอรีเพิ่มเป็นหลายพันแคลอรี
น้ำอัดลมสูตรไดเอ็ทหรือสูตรที่มีแคลอรีต่ำก็ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่นกัน วิธีที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเหล่านี้ทั้งหมด แล้วไปหาน้ำผลไม้สดดื่มแทน น้ำผลไม้สดนั้นมีรสชาติที่ดีและเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพด้วย มันทำหน้าที่เป็นเครื่องดื่มอาหารว่างที่สนุกสนานและเติมเต็มระหว่างมื้ออาหารได้ดี
พยายามดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณตื่นขึ้นมาและก่อนเข้านอน น้ำสะอาดคือราชา นี่คือกฎทองคำ น้ำสะอาดจะช่วยลดขั้นตอนการเผาผลาญไขมันและขับสารพิษออกจากร่างกาย
หากร่างกายของคุณมีน้ำน้อยหรือขาดน้ำระหว่างวัน ร่างกายจะลดการเผาผลาญพลังงาน หมายความว่ากระบวนการกำจัดไขมันนั้นลดลง หากคุณออกกำลังกายก็ให้แน่ใจว่าคุณได้ดื่มน้ำสะอาดมากเพียงพอ เพราะคุณจะสูญเสียน้ำจำนวนมากจากเหงื่อที่ไหลออกมา
ลองหาชาเขียวมาดื่ม ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มทดแทนกาแฟหรือชาดำได้ดีมาก มันอุดมไปด้วยสารที่ชื่อว่าแคทีชิน (catechin)
งานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในปีค.ศ. 2005 ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition ระบุว่า แคทีชิน สามารถช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักผ่านการกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีและลดไขมันในร่างกาย ชาเขียวยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านไวรัส และต้านมะเร็งอีกด้วย
:: ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของคุณ ::
พยายามใช้บันไดมากกว่าลิฟต์หรือบันไดเลื่อน ให้ลองคิดซะว่าเป็นการออกกำลังกายที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษหรือเวลาใด ๆ ในการทุ่มเท
สร้างนิสัยให้ตัวเองเดินเร็วมากขึ้น คุณอาจจะจอดรถของคุณให้ไกลจากที่ทำงานขึ้นสัก 1 – 2 ช่วงตึกในตอนเช้า ถ้าคุณใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ก็ลองลงก่อนสัก 1 – 2 สถานีจากสถานีเป้าหมายของคุณ แล้วลองเดินต่อในระยะทางที่เหลือ
นอกจากวิธีจะทำให้สดชื่นแล้ว มันยังช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกาย หากปฏิบัติควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารให้มีแคลอรีต่ำลงนั้นจะช่วยให้ร่างกายมีโอกาสเผาผลาญเซลล์ไขมันได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
:: ออกกำลังกายให้ถูกวิธี ::
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ การซิทอัพและเคร้าชิ่งเป็นเพียงมายาคติที่เรามักเชื่อกันผิด ๆ ว่ามันคือวิธีการกำจัดไขมันหน้าท้อง ขณะที่ความเป็นจริงนั้น การกำจัดไขมันที่ดีคือการที่คุณต้องออกกำลังกายที่ทำให้เสียเหงื่อ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (cardio) หรือที่มักเรียกกันว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (การออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน) เป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดในการกำจัดไขมัน ซึ่งการออกกำลังกายประเภทนี้ประกอบไปด้วยการออกกำลังกายด้วยวิธีต่าง ๆ มากมาย เช่น การวิ่ง การเดินเร็ว การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน และการกระโดดเชือก
นอกจากนี้ ยังมีการออกกำลังกายทางเลือกใหม่ ๆ ที่เป็นกระแสนิยมอย่างการเต้นแอโรบิค ซึ่งเป็นวิธีที่สร้างความสนุกสนานและยังช่วยลดน้ำหนักไปในตัว
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำการออกกำลังกายแบบแอโรบิคโดยให้ใช้ระยะเวลา 20 ถึง 50 นาที ประมาณ 3 – 5 ครั้งต่อสัปดาห์ การออกกำลังกายแบบนี้นอกจากจะเพิ่มเมตาบอลิซึมแล้ว มันยังช่วยเผาผลาญแคลอรีเพื่อนำมาไปใช้เพิ่มพลังงานให้กับร่ายกายให้มีมากขึ้น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น การลดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตทั่วโลก
การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิค (การออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจน) เช่น การยกเวท อาจมีผลดีต่อร่างกายของคุณ เพราะมันจะช่วยเพิ่มอัตราความต้องการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจำวันของคุณ (Basal Metabolic Rate : BMR)
อัตราความต้องการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจำวัน (BMR) คือปริมาณพลังงานที่ร่างกายเผาผลาญในเวลาที่ไม่ได้ออกกำลังกายเพื่อรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำตามหน้าที่ การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิคจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อของคุณ ซึ่งจำเป็นต้องรับพลังงานเข้ามามากขึ้น
การเพิ่มอัตรา BMR จึงหมายความว่าร่างกายของคุณจะเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การลดไขมันสะสมที่มีอยู่ในร่างกายของคุณ
เปิดใช้งานระบบการฝึกหายใจ หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแถมยังเรียบง่ายเพื่อให้มีหน้าท้องที่แบนเรียบ
สิ่งที่คุณต้องทำคือให้เอานิ้ววางลงบนหน้าท้องแล้วกดสะดือลงไปขณะที่กำลังหายใจตามธรรมชาติ
แล้วให้ลองดูว่าคุณสามารถทำได้นานแค่ไหน และพยายามทำให้ได้มากขึ้นเพิ่มทุกวัน สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการฝึกหายใจนี้ก็คือคุณสามารถทำมันได้ทุกที่ไม่ว่าคุณจะกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ กำลังยืน หรือกำลังเดิน ลองตั้งนาฬิกาในคอมพิวเตอร์หรือในโทรศัพท์ของคุณระหว่างวันเพื่อแจ้งเตือนให้คุณ “เปิดใช้งานระบบการฝึกหายใจ”
:: ทัศนคติที่ถูกต้อง ::
แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะฟังดูล้นเกินไปบ้างก็ตาม แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุวิถีชีวิตที่ดี หากคุณมีชุดความคิดต่อการดำเนินชีวิตไม่ถูกต้อง เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะค่อย ๆ เรียนรู้ได้อย่างธรรมชาติว่าอาหารใดบ้างที่ไม่ดีสำหรับคุณ ยิ่งไปกว่านั้นคุณจะเรียนรู้ที่จะรู้สึกว่าคุณไม่อยากรับประทานอาหารเหล่านี้อีกต่อไป
การปรับตัวให้คุณยอมสละเวลามาออกกำลังกายให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่มีตารางงานที่แสนยุ่งเหยิงของคุณอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนการออกกำลังกายมาเป็นกิจกรรมของครอบครัวที่สนุกสนาน หรือกิจกรรมที่สามารถกระทำร่วมกันกับเหล่ามิตรสหายของคุณแล้ว การรักษาวิถีชีวิตแบบนี้ก็จะมีความง่ายมากขึ้นที่จะยืนหยัดในระยะยาว
และความลับของเรื่องนี้คือ การที่คุณเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของการรักษาความต่อเนื่องในระยะยาว คุณต้องตัดสินใจว่าการลดไขมันหน้าท้องจะต้องใช้เวลา มันไม่มีทางที่ (มัก) ง่าย หรือทางลัดใด ๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไปในชีวิตของคุณจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถรักษาวิถีชีวิตใหม่ของคุณได้ และในที่สุด พฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพเหล่านี้ก็จะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคุณด้วย
ภายในเวลาไม่ถึง 10 สัปดาห์ คุณจะเห็นสัญญาณของการหดตัวของไขมันในกระเพาะอาหาร หน้าท้องของคุณจะแบนราบลง และคุณก็จะนำเสื้อผ้าที่คุณยัดเก็บไว้หลังตู้มาเป็นเวลานานมาสวมใส่ได้อย่างสบายใจ!
………………………………………
ฝ่ายบริการวิชาการ ศวฮ. สำนักงานปัตตานี แปลและเรียบเรียง
โดย มุฮัมมัด ยะหฺยา AboutIslam.net