สิ่งสปรก(นะญิส) คืออะไร ?

การมีเสื้อผ้าและร่างกายที่สะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งเมื่อพูดถึงเรื่องสุขอนามัย แม้แต่สัตว์บางตัวก็ทำความสะอาดตัวมันเองหรือทำความสะอาดตัวอื่น ๆ ในกลุ่มของมัน
เรื่องของความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญมากขในอิสลามและมุสลิมดำเนินตามหลักการที่กำหนดขึ้นเกี่ยวกับเงื่อนไขส่วนบุคคลในชีวิตของเขาโดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เขารับประทาน …

ดังนั้น ถ้ามุสลิมจะสัมผัสสัตว์หรือเนื้อสัตว์ใดก็ตาม พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามหลักการที่คอยควบคุมนะญิส (สิ่งสปรกตามบทบัญญัติ) และฏอฮิร (ความสะอาด) โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่พวกเขาจะเตรียมตัวทำการละหมาดในแต่ละวัน

ตามความเชื่อของมุสลิมสิ่งสกปรกต่าง ๆ นั้นถูกแบ่งออกเป็น 10 ประเภท
1. ปัสสาวะ
2. อุจจาระ
3. อสุจิ
4. ซากศพ
5. เลือด
6. สุนัข
7. สุกร
8. สุรา
9. เหล้าไวน์
10. เหงื่อที่ไหลออกมาของผู้ที่กินสิ่งที่เป็นนะญิส

– เลือด ปัสสาวะ อุจจาระของมนุษย์และสัตว์ทุกชนิดที่กินเนื้อนั้นนะญิส –
บางทีอาจพูดได้ว่ามันมีความชัดเจนในตัวมันเองว่าทำไมปัสสาวะ อุจจาระ อสุจิ ร่างกายที่ตายแล้วและเลือดนั้นเป็นนะญิส(สิ่งสกปรกตามบทบัญญัติ) เหล่านี้มีธรรมชาติอันไม่พึงประสงค์เป็นการเฉพาะที่ยังไม่พูดถึงการมีอยู่ของแบคทีเรีย … ตัวอย่างเช่น เมื่อสัตว์เช่น วัว ซึ่งเนื้อของมันสามารถรับประทานได้ถูกยิงด้วยกับปืนยาสลบเพื่อนำเนื้อนมาวางขายนั้นถือว่าเป็นที่ต้องห้ามเนื่องจากเลือดของมันยังคงค้างอยู่ในตัวสัตว์

สัตว์ต่าง ๆ เช่น แกะ วัว อูฐ แพะ ไก่ ไก่งวง เป็นต้น นั้นอิสลามได้จัดเตรียมและวางแนวทางการเชือดให้กับผู้บริโภค โดยมุสลิมจะต้องให้น้ำกับสัตว์เพื่อความสดชื่นเป็นประการแรกและหันหัวของมันไปทางบัยตุลลอฮฺ(ทิศแห่งการละหมด) จากนั้นต้องเอ่ย “ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงกรุณาปราณีเสมอ” (บิสมิลลาฮฺ อัร-เราะหฺมาน อัร-เราะหฺฮีม) และทำการเชือดที่ลำคอด้วยมีดอันแหลมคมถึงเส้นประสาทไขสันหลัง เมื่อเลือดไหลออกมาจนหมดจากลำคอ (บริสุทธิ์ที่จะรับประทานตามหลักการ) เนื้อของมันจึงบริสุทธิ์และฮาลาล

– สุนัข สุกร สุรา ไวน์ และเหงื่อที่ไหลออกมาของสัตว์ที่กินสิ่งสกปรก –
ตอนนี้เราขอลงไปในรายละเอียดของเหตุผลว่าทำไม สุนัข สุกร สุรา ไวน์ และเหงื่อที่ไหลออกมาของสัตว์ที่กินสิ่งสกปรกนั้นเป็นนะญิส

สุนัขตามธรรมชาติแล้วเป็นนักล่ากินซากศพและเลือด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงก็ตาม เมื่อปล่อยให้วิ่งอย่างอิสระ มันก็จะกินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้วหากว่ามันพบเจอสุนัขจะประสบกับโรคภัยต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคหัดสุนัข โรคพิษสุนัขบ้า โรคตับอักเสบ การติดเชื้อแบคทีเรียและปรสิต เช่น หนอน หมัด ไร และเหา (แมลงเล็ก ๆ ที่อยู่บนสัตว์) มันได้รับการฝึกฝนให้เป็นเหมือนยามเฝ้ารักษาความปลอดภัยหรือเป็นเพื่อนทื่ซื่อสัตย์และไม่มีข้อสงสัยเลยว่ามันแสดงให้เห็นถึงความฉลาดและความรู้สึกบางอย่างแต่คุณลักษณะเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงธรรมชาติเดิมของมันที่ทำให้มันยังคงอยู่ในสัตว์ประเภทที่มีนะญิส

แมวจะติดเชื้อด้วยกับหมัดแมว ตัวไร หนอน การติดเชื้อทางเดินหายใจระดับสูง ลำไส้เล็กอักเสบที่ติดเชื้อในแมวและเชื้อไวรัสลิวคีเมีย (เกิดเป็นเนื้องอกขึ้นตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ไต ม้าม เป็นต้น) ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีที่จะเอาสัตว์มาเลี้ยงไว้ในบ้าน

พวกเราส่วนใหญ่ไม่มีอุปนิสัยชอบกินสุนัข แต่ประเด็นที่เราต้องการ คือสุนัขนั้นเป็นสัตว์ที่มีนะญิสและจะต้องไม่เลี้ยงมันไว้ในบ้านของคน ถ้ามันกินอาหารจากจานของคน จานทั้งหมดที่มันสัมผัสนั้นจะต้องทิ้งไป (หรือไม่นำมาใช้จนกว่าจะทำความสะอาดได้อย่างถูกต้อง)

ตอนนี้ เรามาพิจารณาในเรื่องของหมู ไม่มีเพียงแค่ตัวหมูเท่านั้น บางครั้งต้องเผชิญกับอหิวาตกโรค โรคไข้หวัดหมู การเป็นไข้ อันดูแลนท์ ฟีเวอร์ (Undulant fever) ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ “บรูเซลล่า” โรคแบล็กเลก (Blackleg) ที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ

ข้อมูลดังต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นถึงเหตุผลบางประการว่าทำไมหมูไม่เพียงแต่เป็นนะญิส(สิ่งสกปรก) เท่านั้นแต่ยังเป็นที่ต้องห้ามในการรับประทานเช่นกันทั้ง 3 ศาสนา ยิว คริสเตียน และอิสลาม

อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงตรัสว่า
“ที่จริงที่พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้านั้นเพียงแต่สัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มันเพื่ออื่นจากอัลลอฮ์” (สูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 173)

“จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ฉันไม่พบว่าในสิ่งที่ถูให้เป็นโองการแก่ฉันนั้น มีสิ่งต้องห้ามแก่ผู้บริโภคที่จะบริโภคมัน นอกจากสิ่งนั้นเป็นสัตว์ที่ตายเอง หรือเลือดที่ไหลออก หรือเนื้อสุกร แท้จริงมันเป็นสิ่งโสมม หรือเป็นสิ่งละเมิด” (สูเราะฮฺ อัล-อันอาม อายะฮฺที่ 145)

และอีกอายะฮฺอัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงตรัสว่า
“แท้จริง พระองค์ทรงห้ามพวกเจ้าเพียงแต่สัตว์ที่ตายเอง และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งเสียงที่มันเพื่ออื่นจากอัลลอฮ์ ดังนั้นผู้ใดที่อยู่ในสภาพคับขัน โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่เป็นผู้ละเมิดแล้ว แท้จริง อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (สูเราะฮฺ อัน-นะหฺลฺ อายะฮฺที่ 115)

นักชีวเคมีมุสลิมได้ทำการศึกษาหมูและค้นพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจบางอย่าง
อย่างแรก คือไขมันที่รวมอยู่ในเนื้อสัตว์และมันไม่ได้แยกออกจากส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ ซึ่งพบว่าไขมันของสัตว์ที่กินได้นั้นมาจากรูปแบบหนึ่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัว ในขณะที่เนื้อหมูเป็นแบบของกรดไขมันอิ่มตัว นั่นหมายความว่าหากคนกินเนื้อสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร ไขมันของส่วนหลังจะถูกย่อยสลายในลำไล้เล็กหลังจากที่มีการผสมเข้ากับเกลือน้ำดี มันจะถูกดูดซึมเป็นไขมันของมนุษย์และเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื่อไขมันของมนุษย์

เอ็นไซม์ไลเปส (pancreatic lipase) ย่อยไขมันโดยอาศัยเกลือน้ำดี สัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหารไม่สามารถย่อยสลายได้ง่าย ๆ ดังนั้นโมเลกุลของสัตว์เหล่านี้จะถูกผสมให้เข้ากันและดูดซึมเป็นไขมันจากสัตว์ มันจะถูกสะสมในเนื้อเยื่อไขมันของร่างกายมนุษย์เหมือนไขมันสัตว์ ซึ่งไม่ใช่ไขมันของมนุษย์ ไขมันหมู(น้ำมันหมู)มีลักษณะเช่นเดียวกับไขมันของสัตว์ที่เรากินเนื้อของมันเป็นอาหาร

ดังนั้น จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมันหมูถือว่าเป็นนะญิสและเป็นที่ต้องห้าม ซึ่งคนที่ตระหนักในเรื่องนี้จะไม่ใส่มันไว้ในรายการของพวกเขา เช่น คุกกี้สำเร็จรูปที่มีน้ำมันหมู

ปรสิตที่มีผลต่อหนู ได้แก่ พยาธิปากขอ พยาธิตัวกลม และแบคทีเรีย เช่นเดียวกับ พยาธิตัวแบนพาราโกนิมัส พยาธิใบไม้ตับชนิดคลอนอร์คิสซิเนนซิสและโรคอีริซิเพโลทริกซ์ (erysipelothrix rhnsiphathiae) (มีอาการรุนแรงมากในสุกร ทำให้เกิดข้ออักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผิวหนังมีการอักเสบ บวมมีสีแดงคล้ำคล้าย ๆ ไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก บางที่จะคัน) สามารถฝังตัวเข้าไปอยู่ในอวัยวะสำคัญ ๆ ของร่างกายมนุษย์ เช่น สมอง ตา หัวใจ ปอด กล้ามเนื้อ รวมไปถึงตับ

Dr. El-Fangary รายงานว่าคนจำนวนมากกินสัตว์ที่กินเนื้อมักจะมีทรรศคติที่ไม่ได้ ขาดมนุษยธรรมต่อคนอื่น ๆ ที่พร้อมจะฆ่าคนอื่นโดยปราศจากเหตุผลใด ๆ และบางคนถึงกับกินเนื้อของมนุษย์ด้วยกัน

– เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ –
ต่อมาเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด ตามหลักการทั่วไปทุกสิ่งที่มึนเมาหรือสารเสพติดนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างแน่นอน มันจะคอยทำลายสมรรถภาพทางร่างกายและสภาพจิตใจเช่นกัน

ธรรมชาติดั้งเดิมของมัน เช่น องุ่นถูกทำไม่ให้บริสุทธิ์เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงและผสมกับสารอื่น ๆ และสามารถสร้างผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายมากในมนุษย์ ส่วนผสมพิเศษได้ทำให้ธรรมชาติดั้งเดิมถูกทำลายคุณค่าเดิมของมัน

สุราประกอบด้วยเอทานอล ซึ่งเป็นของเหลวไวไฟไม่มีสี (C2H5OH) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มึนเมาในสุราและยังใช้เป็นตัวทำละลายในน้ำยาทำความสะอาดอีกด้วย
.
– ความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา –

มนุษย์จะมีความบริสุทธิ์ด้วยการดำเนินตามหลักการที่บริสุทธิ์และศรัทธาในผู้สร้าง นั่นคือ อัลลอฮฺอิสลามมีคำแนะนำหลากหลายวิธีให้กับผู้คนในเรื่องของการรักษาความสะอาด เครื่องใช้ภายในบ้าน เสื้อผ้า ร่างกาย ผม ฟัน การดื่มน้ำ น้ำที่ใช้ชำระล้างและการอาบน้ำ ที่อยู่อาศัย ถนน สถานที่สาธารณะ อาหาร ตลอดจนทุกสิ่งที่มนุษย์ใช้ประโยชน์

………………………………………
ฝ่ายบริการวิชาการ ศวฮ. สำนักงานปัตตานี แปลและเรียบเรียง
ข้อมูลจาก Islam Q&A